إعدادات العرض
ผู้ที่มีความตระหนี่ถี่เหนี่ยวคือ ผู้ที่เมื่อฉัน (นบี) ถูกเอ่ยขึ้น ณ ที่เขาแต่เขากลับไม่กล่าวเศาะละวาต…
ผู้ที่มีความตระหนี่ถี่เหนี่ยวคือ ผู้ที่เมื่อฉัน (นบี) ถูกเอ่ยขึ้น ณ ที่เขาแต่เขากลับไม่กล่าวเศาะละวาต (สดุดี) ต่อฉัน
จากอัลฮุเซน บิน อาลี บิน อบีฏอลิบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า: ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: "ผู้ที่มีความตระหนี่ถี่เหนี่ยวคือ ผู้ที่เมื่อฉัน (นบี) ถูกเอ่ยขึ้น ณ ที่เขาแต่เขากลับไม่กล่าวเศาะละวาต (สดุดี) ต่อฉัน"
الترجمة
العربية বাংলা Bosanski English Español فارسی Français Bahasa Indonesia Tagalog Türkçe اردو 中文 हिन्दी ئۇيغۇرچە Hausa Kurdî Português සිංහල Русский Nederlands অসমীয়া Tiếng Việt Kiswahili ગુજરાતી پښتو አማርኛ Oromoo Românăالشرح
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เตือนผู้ที่ไม่เซาะละวาตแก่ท่านทันทีที่เขาได้ยินชื่อ ฉายา หรือคำอธิบายเกี่ยวกับคุณลักษณะของเขา และท่านกล่าวว่า: ผู้ที่ตระหนี่ที่สุด คือผู้ที่เมื่อฉันได้ถูกเอ๋ยชื่อ ณ.ที่เขาๆกลับไม่เซาะละวาตแก่ฉัน นี่เป็นเพราะ: ประการแรก: นี่คือการขี้เหนียวต่อสิ่งที่ไม่ได้ทำให้เขาเสียหายไม่ว่าจะน้อยหรือมาก และไม่ใช้จ่ายเงินหรือใช้ความพยายาม ประการที่สอง: เขาตระหนี่กับตัวเองและกีดกั้นตัวเองจากรางวัลแห่งการเซาะละวาตแก่ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เพราะเขาละเว้นจากการเศาะละวาตแก่ท่านนบีเพราะด้วยการที่เขาไม่เศาะละวาตให้กับท่าน เขาได้แสดงถึงความโลภและไม่ยอมทำหน้าที่ที่ควรทำตามคำสั่ง เพื่อที่จะได้รับผลบุญ ประการที่สาม: การเซาะละวาตต่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เป็นการปฏิบัติต่อสิทธิบางประการของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เพราะท่านคือผู้ที่สอนเรา และท่านคือผู้ที่ชี้นำเรา และท่านคือผู้ที่เรียกเรามายังพระเจ้า ผู้ประเสริฐและสูงสุด และทรงนำสาส์นนี้และธรรมบัญญัตินี้มาให้เรา ท่านจึงเป็นเหตุให้เราได้รับทางนำ หลังจากการให้ทางนำของอัลลอ์ ตะอาลา และผู้ใดไม่เซาะละวาต เขาจึงเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวในตัวเอง ตระหนี่ถี่เหนี่ยวกับศาสดาของเขา ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ด้วยสิทธิที่เป็นสิทธิต่ำสุดประการหนึ่งที่พึงมีต่อท่านนบีفوائد الحديث
การละทิ้งการเซาละวาตเเก่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เป็นสัญลักษณ์ของความตระหนี่ถี่เหนี่ยว
การเซาะละวาตแก่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมเป็นหนึ่งในความใกล้ชิดและการทำดีที่ดีที่สุดในทุกเวลา และจะต้องมีความสำคัญโดยเฉพาะเมื่อมีการกล่าวถึงท่าน
อัล-นาวาวีย์ กล่าวว่า: หากคนหนึ่งเซาะละวาตแก่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เขาควรรวมการเซาะละวาตและการสลามเข้าด้วยกัน และไม่จำกัดอยู่เพียงหนึ่งในสองนั้น เขาไม่ควรพูดว่า: ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ (การสดุดีจงมีแด่เขา) เท่านั้น หรือกล่าวว่า: อะลัยฮิสสลาม (ขอความสันติจงมีแด่เขา) เท่านั้น
อบู อัล-อาลิยะห์ กล่าวในคำพูดของเขา ว่า: (แท้จริงแล้ว อัลลอฮ์และมลาอิกะฮ์ของพระองค์ส่งความจำเริญ (เซาะละวาต) แก่ท่านนบี) เขากล่าวว่า: คำเซาะละวาตของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพต่อศาสดาของพระองค์ คือ: การสรรเสริญของพระองค์แด่เขา และการเซาะละวาตจากมลาอิกะฮ์และมนุษย์ คือ: การวิงวอน(ดุอาอ์)
อัล-ฮะลีมีย์ กล่าวว่า: ความหมายของ “โอ้อัลลอฮ์ ขอให้ทรงโปรดปรานท่านนบีมูฮัมมัด" คือ ขอให้อัลลอฮ์ทรงให้เกียรติท่านในโลกนี้ โดยการยกย่องชื่อเสียงของท่าน แสดงให้เห็นถึงศาสนาของท่าน และรักษาให้กฎหมายของท่านมีอยู่ และในโลกหน้า ด้วยการช่วยเหลือแก่ประชาชาติของเขา โดยเต็มไปด้วยรางวัลและการตอบแทนของพระองค์ และเริ่มโดยความโปรดปรานของท่านแก่กลุ่มชนแรกๆ และกลุ่มชนท้ายๆ ด้วยตำแหน่งที่น่ายกย่อง และจัดลำดับความสำคัญของเขาเหนือพยานที่ใกล้ชิดทั้งหมด