إعدادات العرض
ผู้ใดที่ละหมาดเหมือนกับละหมาดของเรา และผินสู่กิบละฮ์เดียวกับเรา และกินสัตว์เชือดของเรา…
ผู้ใดที่ละหมาดเหมือนกับละหมาดของเรา และผินสู่กิบละฮ์เดียวกับเรา และกินสัตว์เชือดของเรา นั่นแหละคือมุสลิม ที่มีการคุ้มครองจากอัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์ ดังนั้นอย่าทรยศต่ออัลลอฮ์ในการคุ้มครองของพระองค์”
จากอนัส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า : ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : "ผู้ใดที่ละหมาดเหมือนกับละหมาดของเรา และผินสู่กิบละฮ์เดียวกับเรา และกินสัตว์เชือดของเรา นั่นแหละคือมุสลิม ที่มีการคุ้มครองจากอัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์ ดังนั้นอย่าทรยศต่ออัลลอฮ์ในการคุ้มครองของพระองค์”
الترجمة
العربية Português دری Македонски Magyar Tiếng Việt ქართული বাংলা Kurdî অসমীয়া Bahasa Indonesia Nederlands ਪੰਜਾਬੀالشرح
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า ผู้ใดที่ยึดมั่นในพิธีกรรมภายนอกของศาสนา เช่น การละหมาดแบบเดียวกับที่เราละหมาด การหันหน้าไปทางกะอ์บะฮ์ (กิบละฮ์) ของเรา และการกินสัตว์ที่เราเชือดโดยถือว่าสัตว์เหล่านั้นได้รับอนุญาต ผู้นั้นเป็นมุสลิมที่ได้รับความไว้วางใจและพันธสัญญาจากอัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์ ดังนั้น จงอย่าละเมิดความไว้วางใจและพันธสัญญาที่อัลลอฮ์มีต่อเขาفوائد الحديث
อิบนุรอญับ กล่าวว่า: หะดีษนี้บ่งชี้ว่า เลือดจะไม่รับประกันความปลอดภัยเพียงแค่การกล่าวปฏิญาณศรัทธาเท่านั้น จนกว่าจะปฏิบัติตามสิทธิของมันครบถ้วน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการละหมาด ดังนั้นจึงถูกยกขึ้นมากล่าวโดยเฉพาะ และในฮะดีษอื่นยังได้เพิ่มสิทธิของมันคือการจ่ายซะกาตด้วย
กิจการของผู้คนขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอก ไม่ใช่รูปลักษณ์ภายใน ผู้ใดที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาจะต้องอยู่ภายใต้คำวินิจฉัยเช่นเดียวกับผู้นั้น เว้นแต่จะแสดงเป็นอย่างอื่น
อิบนุรอญับ กล่าวว่า: การกล่าวถึงการหันหน้าไปทางกิบละฮ์นั้น บ่งชี้ว่าจำเป็นต้องละหมาดตามที่มุสลิมกำหนดไว้ในคัมภีร์ที่ประทานแก่ศาสดาของพวกเขา ซึ่งก็คือการละหมาดไปยังกะอ์บะฮ์ มิฉะนั้นแล้ว ผู้ใดที่ละหมาดไปยังเยรูซาเล็มหลังจากที่เยรูซาเล็มถูกยกเลิกไปแล้ว เช่น ชาวยิว หรือไปทางตะวันออก เช่น ชาวคริสต์ ย่อมไม่ใช่มุสลิม แม้ว่าเขาจะกล่าวชะฮาดะฮ์ และถือในพระเจ้าเอกองค์อัลลอฮ์ก็ตาม
เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการหันหน้าไปทางกิบละฮ์ในระหว่างการละหมาด เนื่องจากไม่มีการกล่าวถึงเงื่อนไขอื่นๆ ของการละหมาด เช่น ความบริสุทธิ์และสิ่งอื่นๆ
อิบนุรอญับ กล่าวว่า: การที่เขากล่าวถึงการกินเนื้อเชือดของชาวมุสลิมนั้น บ่งชี้ว่าจำเป็นต้องยึดมั่นในหลักบัญญัติของศาสนาอิสลามทุกประการ ซึ่งหลักสำคัญที่สุดคือการกินเนื้อเชือดของชาวมุสลิม และต้องเห็นด้วยกับพวกเขาในการเชือด ผู้ใดที่ละเว้นจากสิ่งนั้นก็ไม่ใช่มุสลิม
