إعدادات العرض
บุคคลเจ็ดประเภทที่อัลลอฮ์จะทรงให้ร่มเงาของพระองค์แก่พวกเขา…
บุคคลเจ็ดประเภทที่อัลลอฮ์จะทรงให้ร่มเงาของพระองค์แก่พวกเขา ในวันที่ไม่มีร่มเงาใดๆนอกจากร่มเงาของพระองค์
จากอบูฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: บุคคลเจ็ดประเภทที่อัลลอฮ์จะทรงให้ร่มเงาของพระองค์แก่พวกเขา ในวันที่ไม่มีร่มเงาใดๆนอกจากร่มเงาของพระองค์ คือ: ผู้นำที่ผดุงความยุติธรรม คนหนุ่มที่เติบโตด้วยความขยันทำอิบาดะฮ์ต่อพระผู้เป็นเจ้าของเขา บุคคลที่มีใจผูกพันกับมัสยิด บุคคลสองคนที่มีความรักต่อกันเพื่ออัลลอฮ์ เขาทั้งสองจะคบหากันและจะแยกจากกันในหนทางของอัลลอฮ์ ผู้ชายที่ถูกผู้หญิงที่มีฐานะร่ำรวยและมีหน้าตาที่สวยงามชวนให้กระทำผิดประเวณีแต่เขาปฏิเสธและบอกกับนางว่าแท้จริงข้าเกรงกลัวต่ออัลลอฮ์ บุคคลที่บริจาคทานอย่างเงียบๆ(ไม่ป่าวประกาศ) จนกระทั่งมือข้างซ้ายของเขาไม่รู้ในสิ่งที่มือข้างขวาได้แจกจ่ายไป และบุคคลที่นึกถึงอัลลอฮ์โดยลำพังและร้องไห้ออกมาด้วยความสำนึกผิดต่อพระองค์"
الترجمة
العربية Tiếng Việt অসমীয়া Bahasa Indonesia Nederlands Kiswahili Hausa සිංහල English ગુજરાતી Magyar ქართული Română Русский Português తెలుగు मराठी دری Türkçe አማርኛ বাংলা Kurdî Malagasy Македонски Tagalogالشرح
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แจ้งข่าวดีแก่ผู้ศรัทธาเจ็ดประเภท ซึ่งพระเจ้าผู้ทรงอำนาจจะทรงให้ร่มเงาแก่พวกเขาจากร่มเงาบัลลังก์ของพระองค์ ในวันที่ไม่มีร่มเงาใด ๆ เว้นแต่ร่มเงาของพระองค์: ประเภทแรก: ผู้นำที่เที่ยงธรรมในตัวเอง ไม่ผิดศีลธรรม อยู่ในหมู่ราษฎรของเขาโดยไม่อธรรม เขาเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุด และทุกคนที่รับผิดชอบงานใดๆ ของชาวมุสลิมและมีความยุติธรรมในเรื่องนั้นก็เข้าร่วมด้วย ประเภทที่สอง: ชายหนุ่มที่เติบโตมากับการเคารพภักดีพระเจ้า และใช้ชีวิตวัยหนุ่มและกิจกรรมของเขาจนตายเพื่อทำสิ่งนั้น ประเภทที่สาม: ชายผู้ที่หัวใจของเขาผูกพันกับมัสยิด เมื่อเขาออกจากมัสยิด เขาจะกลับไปอีกครั้งเพราะความรักที่ลึกซึ้งและการติดมัสยิดอย่างต่อเนื่อง หัวใจของเขามีความผูกพันกับมัสยิด แม้ว่าร่างกายของเขาจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้ต้องออกไปจากมัสยิดก็ตาม ประเภทที่สี่: ชายสองคนที่รักกันเพื่อพระเจ้าอย่างแท้จริง และรักษาความรักทางศาสนา และไม่ตัดขาดด้วยเหตุผลทางโลก ไม่ว่าพวกเขาจะได้พบกันจริงหรือไม่ จนกว่าความตายจะพรากพวกเขาจากกัน ประเภทที่ห้า: ผู้ชายคนหนึ่งถูกผู้หญิงขอให้ทำสิ่งที่ผิดศีลธรรม โดยที่เธอมีวงศ์ตระกูลดี มีเกียรติ มียศ มีเงินทองและความสวยงาม แต่เขาปฏิเสธและพูดกับเธอว่า: ฉันเกรงกลัวพระเจ้า ประเภทที่หก: ผู้ชายที่บริจาคทานทั้งน้อยหรือมาก และเขาไม่ได้โอ้อวดมัน แต่ซ่อนมันไว้เพื่อไม่ให้มือซ้ายไม่รู้ว่ามือขวาของเขาบริจาคอะไรไป ประเภทที่เจ็ด: ชายที่ระลึกถึงอัลลอฮ์ในใจของเขาด้วยการคิดถึงพระองค์ หรือด้วยลิ้นของเขาด้วยการกล่าวคำระลึกถึงพระองค์ ในสถานที่ที่ไม่มีผู้คนอยู่รอบข้าง จนทำให้หยาดน้ำตาไหลออกจากตาของเขาเนื่องจากความกลัวและการยกย่องพระองค์فوائد الحديث
ความประเสริฐของกลุ่มคนทั้งเจ็ดประเภทที่กล่าวมา และสนับสนุนให้ปฏิบัติตามลักษณะดังกล่าว
อิบนุ ฮาญาร์ กล่าวในคำพูดของเขา “ในเงาของพระองค์”: ว่ากันว่าสิ่งที่หมายถึงคือ: เงาแห่งบัลลังก์ของพระองค์ และสิ่งนี้ถูกระบุโดยหะดีษของซัลมาน ซึ่งเล่าโดยซะอีด บิน มันศูร ด้วยสายรายงานที่ดี ว่า: “ผู้ศรัทธาเจ็ดประเภท ซึ่งพระเจ้าผู้ทรงอำนาจจะทรงให้ร่มเงาแก่พวกเขาจากร่มเงาบัลลังก์ของพระองค์”
อิบนุ ฮาญาร์ กล่าวว่า: การอธิบายคำว่า "ยุติธรรม" ได้ดีที่สุดก็คือ เขาคือผู้ที่ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระเจ้า โดยการวางทุกสิ่งในตำแหน่งที่เหมาะสมโดยไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป และการที่กล่าวผู้นำที่ยุติธรรมเป็นอันดับแรก เพราะพวกเขาจะนำประโยชน์ที่กว้างขวาง
การรอคอยการละหมาดหลังจากการละหมาดมีคุณค่ามากในอิสลาม
อัล-นะวะวีย์ กล่าวว่า: ในหะดีษมีการกระตุ้นให้รักกันด้วยอัลลอฮ์และชี้ให้เห็นถึงคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ของสิ่งนั้น
ที่จำกัดเรื่องตำแหน่งและความสวยงามเนื่องจากเป็นความปรารถนาอันแรงกล้าของผู้คนที่มีต่อคุณลักษณะทั้งสอง รักในทั้งสองนั้น รวมถึงความยากลำบากในการได้มาซึ่งสิ่งเหล่านั้น
สิ่งที่ดีที่สุดในการทำการกุศลคือ การปกปิดและห่างไกลจากการโอ้อวด ถึงแม้ว่าอนุญาตที่จะบริจาคทานและซะกาตอย่างเปิดเผย หากปราศจากการโอ้อวดและมุ่งหมายที่จะส่งเสริมให้ผู้อื่นบริจาค และเพื่อให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม และเพื่อแสดงเอกลักษ์ของอิสลาม
บุคคลทั้งเจ็ดประเภทนี้ได้รับความสุขนั้น เนื่องด้วยความบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮ์และการต่อต้านกิเลสของตนเอง
คำว่า "เจ็ดจำพวกที่พระองค์จะให้เงาร่มของพระองค" การกล่าวถึงจำนวนเจ็ดจำพวกนั้นไม่ได้หมายความว่าจะมีแค่เจ็ดจำพวกนี้เท่านั้น เพราะยังมีประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวในหะดีษนี้ ซึ่งอัลลอฮ์จะให้เงาร่มของพระองค์แก่พวกเขาเช่นกัน
อิบนุฮะญัรกล่าวว่า: การระบุถึง "ผู้ชาย" ในหะดีษนี้ไม่ได้มีนัยเฉพาะสำหรับพวกเขาเท่านั้น แต่ผู้หญิงสามารถมีส่วนร่วมในคุณลักษณะดังกล่าวได้เช่นกัน ยกเว้นกรณีที่กล่าวถึงอิหม่ามผู้ยุติธรรมซึ่งหมายถึงตำแหน่งอิหม่ามใหญ่ (คอลีฟะฮ์) อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงสามารถเข้าร่วมได้ในกรณีที่เธอมีบุตรหลานและปฏิบัติความยุติธรรมในพวกเขา ส่วนข้อคุณลักษณะการปฏิบัติตนในมัสยิดนั้นจะยกเว้นไป เพราะการละหมาดของผู้หญิงในบ้านของเธอนั้นดีกว่าในมัสยิด สำหรับคุณลักษณะอื่น ๆ ผู้หญิงสามารถมีส่วนร่วมได้ เช่นเดียวกับกรณีที่ผู้ชายถูกผู้หญิงเชิญ แต่ในทางกลับกัน หากเป็นผู้หญิงที่ถูกชายรูปงามเชิญ และเธอปฏิเสธด้วยความเกรงกลัวต่ออัลลอฮ์ แม้ว่าเธอจะมีความต้องการก็ตาม