إعدادات العرض
“จงพยายามทำให้ใกล้เคียงกับความถูกต้องมากที่สุดและทำให้ตรงเถิด…
“จงพยายามทำให้ใกล้เคียงกับความถูกต้องมากที่สุดและทำให้ตรงเถิด และจงรู้ไว้ว่าไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเจ้าจะรอดพ้น(จากการลงโทษของพระเจ้า)ด้วยการงานของพวกเขา” พวกเขากล่าวว่า “โอ้ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แม้กระทั่งท่านกระนั้นหรือ?” ท่านนบีกล่าวว่า: “ฉันก็เช่นกัน เว้นแต่พระเจ้าจะประทานความเมตตาและความกรุณาแก่ฉัน”
จากอบูฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: “จงพยายามทำให้ใกล้เคียงกับความถูกต้องมากที่สุดและทำให้ตรงเถิด และจงรู้ไว้ว่าไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเจ้าจะรอดพ้น(จากการลงโทษของพระเจ้า)ด้วยการงานของพวกเขา” พวกเขากล่าวว่า “โอ้ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แม้กระทั่งท่านกระนั้นหรือ?” ท่านนบีกล่าวว่า: “ฉันก็เช่นกัน เว้นแต่พระเจ้าจะประทานความเมตตาและความกรุณาแก่ฉัน”
الترجمة
العربية বাংলা Bosanski English Español فارسی Français Bahasa Indonesia Русский Tagalog Türkçe اردو 中文 हिन्दी Kurdî Kiswahili Português සිංහල Tiếng Việt Nederlands অসমীয়া ગુજરાતી አማርኛ پښتو Hausaالشرح
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เรียกร้องให้บรรดาสาวกทำงานและเกรงกลัวพระเจ้าให้มากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ โดยไม่เลยเถิดและบกพร่อง และตั้งใจที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องโดยบริสุทธิ์ใจต่อพระเจ้าและปฏิบัติตามซุนนะฮ์ เพื่อให้การงานของพวกเขาจะได้รับการยอมรับ จะเป็นเหตุให้ความเมตตาลงมาสู่พวกเขา แล้วท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวแก่พวกเขาว่าไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเจ้าจะรอดพ้น(จากการลงโทษของพระผู้เป็นเจ้า)ได้ด้วยเพียงการงานของเขาเท่านั้น แต่ต้องด้วยความเมตตาของอัลลอฮ์ พวกเขากล่าวว่า แม้แต่ท่าน โอ้ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ การงานของท่านก็ไม่อาจช่วยให้รอดพ้นได้ ทั้งที่การงานของท่านนั้นยิ่งใหญ่? ท่านตอบว่า : แม้กระทั่งฉัน เว้นเสียแต่ว่า พระเจ้าจะทรงคุ้มครองฉันด้วยความเมตตาของพระองค์فوائد الحديث
อัล-นะวาวีย์ กล่าวว่า: (จงทำให้ตรงและพยายามทำให้ใกล้เคียงกับความถูกต้องเถิด): จงแสวงหาความถูกต้องและจงปฏิบัติสิ่งที่ถูกต้อง และถ้าคุณไม่สามารถทำได้ก็จงทำให้ไกล้เคียงมากที่สุด คือ: การเข้าใกล้มัน และความถูกต้องคือ : ความเที่ยงตรง นั้นก็คือความเหมาะสมที่ไม่มากเกินไปและไม่บกพร่อง ฉะนั้นจงอย่าเคร่งครัดจนเกินไปและอย่าทำให้ขาดตกบกพร่อง
อิบนุ บาซ กล่าวว่า: การประกอบการงานที่ดีเป็นเหตุให้เข้าสวรรค์ เช่นเดียวกับที่การประกอบการชั่วเป็นเหตุให้เข้านรก และซุนนะฮ์แสดงให้เห็นว่าการเข้าสู่สวรรค์ของพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงผลของการทำงาน แต่เป็นการให้อภัยและความเมตตาจากพระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสูงส่ง ดังนั้น พวกเขาเข้าไปในนั้นเพราะเหตุแห่งการกระทำของพวกเขา แต่สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือความเมตตาของพระองค์ ผู้ทรงสูงส่ง และการอภัยโทษของพระองค์
ในฐานะบ่าวคนหนึ่งนั้น จึงไม่ควรหลงและชื่นชมกับงานของเขาไม่ว่างานนั้นจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม เนื่องจากสิทธิของพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่า ดังนั้นปวงบ่าวจึงจำเป็นต้องมีทั้งความกลัวและความหวัง
พระคุณและความเมตตาของพระเจ้าที่มีต่อปวงบ่าวของพระองค์กว้างกว่าการงานของพวกเขา
การกระทำดีเป็นสาเหตุแห่งการเข้าสวรรค์ และการได้รับความสำเร็จนั้นเกิดจากความโปรดปรานและความเมตตาของอัลลอฮ์เท่านั้น
อัล-กิรมานีย์ กล่าวว่า: “เมื่อทุกคนไม่ได้เข้าสวรรค์เว้นแต่ด้วยความเมตตาของพระเจ้า เหตุผลที่ท่านศาสนทูต ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถูกระบุถึงโดยเฉพาะนั้น เพราะว่าท่านได้รับการยืนยันแล้วว่าจะเข้าสวรรค์ แต่ยังคงต้องพึ่งพาความเมตตาของอัลลอฮ์ ดังนั้นบุคคลอื่น ๆ ย่อมต้องพึ่งพาความเมตตานี้ยิ่งกว่า
อัล-นะวาวีย์ กล่าวว่า: ตามความหมายของพระดำรัสของพระผู้ทรงอำนาจที่ว่า “จงเข้าไปในสวนสวรรค์เนื่องจากสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้” (อัน-นะฮ์ลุ: 32) “ และนั่นคือสวนสวรรค์ ซึ่งพวกเจ้าได้ถูกให้รับเป็นมรดกตามที่พวกเจ้าได้กระทำ (ความดี) ไว้” ( อัล-ซุครุฟ: 72] และโองการอื่น ๆ ที่คล้ายๆ กัน ที่เป็นโองการที่ระบุว่าการทำความดีจะนำพาไปสู่สวรรค์ มันไม่ได้ขัดแย้งกับหะดีษเหล่านี้ แต่ความหมายของโองการเหล่านั้นก็คือ การเข้าสู่สวรรค์นั้นเกิดจากการกระทำ จากนั้นความสำเร็จก็เกิดจากการกระทำ การชี้นำสู่ความจริงใจในสิ่งเหล่านั้น และการตอบรับสิ่งเหล่านั้นด้วยความเมตตาและพระคุณของพระเจ้าผู้ทรงอำนาจ ดังนั้น เป็นที่ถูกต้องแล้วที่เขาไม่ได้เข้าสวรรค์เพียงเพราะงานเท่านั้น ดังที่หะดีษนี้หมายถึง และถูกต้องที่เขาเข้าสวรรค์ด้วยการกระทำ เพราะนั่นก็คือส่วนหนึ่งของความเมตตา
อิบนุ อัล-เญาซีย์ กล่าวว่า: จากสิ่งนี้ ทำให้เราสามารถได้รับคำตอบ 4 ประการ: ประการแรก: ความสำเร็จในการทำงานมาจากความเมตตาของพระเจ้า และหากไม่ใช่เพราะความเมตตาของพระเจ้าก่อนหน้านี้ ความศรัทธาหรือการเชื่อฟังที่ทำไห้รอดก็คงไม่เกิดขึ้น ประการที่สอง: ผลประโยชน์ของบ่าวนั้นเป็นของนาย ดังนั้นการทำงานของเขาจึงเป็นสิทธิของนาย หากนายมอบรางวัลใด ๆ แก่เขา ก็เป็นเพียงความกรุณาของนายเท่านั้น ประการที่สาม: มีการระบุไว้ในหะดีษบางบทว่าการเข้าสู่สวรรค์แบบเดียวกันนั้นเนื่องมาจากความเมตตาของพระเจ้า และการแบ่งลำดับชั้นตามการกระทำ ประการที่สี่: การทำความดีนั้นเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ แต่รางวัลที่ได้รับนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นการที่ได้รับพระคุณที่ไม่สิ้นสุดในรางวัลนั้น เป็นผลจากความเมตตา ไม่ใช่การตอบแทนจากการกระทำที่ทำไป.
อัร-รอฟีอีย์ กล่าวว่า: แท้จริงผู้ประกอบการงานที่ดีไม่ควรพึ่งการงานของเขาในการแสวงหาความสำเร็จ และการได้รับตำแหน่งจากอัลลอฮ์ เพราะแท้จริงแล้วเขากระทำโดยการดลใจจากพระเจ้าเท่านั้น และการที่เขาได้ละทิ้งการฝ่าฝืนอันเนื่องจากการปกป้องของพระเจ้า ดังนั้นทั้งหมดจึงเกิดขึ้นโดยพระคุณและความเมตตาของพระองค์
التصنيفات
เตาฮีด อัล-อัสมาอฺวัสศิฟาต