1- “แท้จริง ในหมู่คนที่เลวร้ายที่สุดคือผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ในขณะที่วันอวสานโลกเกิดขึ้น และบรรดาผู้ที่ใช้สุสานเป็นมัสยิด”

2- อัลลอฮ์จะทรงให้เขาได้เข้าสวรรค์ไม่ว่าเขาจะมีความดีกี่มากน้อยก็ตาม

3- ผู้ใดที่ประวิงเวลาให้กับลูกหนี้ที่ขัดสนหรือยกหนี้ให้แก่เขา อัลลอฮ์จะทรงให้เขาอยู่ใต้ร่มเงาบัลลังก์ของพระองค์ในวันฟื้นคืนชีพ ซึ่งเป็นวันที่ไม่มีร่มเงาใดนอกจากร่มเงาของพระองค์”

4- แท้จริง พวกเจ้าจะเห็นพระเจ้าของพวกเจ้าเหมือนที่พวกเจ้าเห็นดวงจันทร์ดวงนี้ ซึ่งไม่มีความลำบากใดๆ กับพวกเจ้าในการมองเห็นพระองค์

5- พึงทราบเถิด แท้จริง! ในไม่ช้า หะดีษจากฉันจะถูกส่งไปยังชายคนหนึ่ง ในขณะที่เขาเอนกายอยู่บนโซฟาของเขา และเขากล่าวว่า: "ระหว่างพวกเราและพวกเจ้าคือคัมภีร์ของอัลลอฮ์

6- “แท้จริง อัลลอฮ์จะทรงเรียกชายคนหนึ่งจากประชาชาติของฉันออกมาต่อหน้าผู้คนมากมายในวันกิยามะฮ์

7- หลังจากอัลลอฮ์สร้างสวรรค์และนรก พระองค์ได้ส่งมลาอิกะฮ์ญิบรีล อะลัยฮิสสลาม

8- “สิ่งแรกที่จะถูกตัดสินในหมู่ผู้คนในวันกิยามะฮ์คือเรื่องที่เกี่ยวกับการนองเลือด”

9- แท้จริง ทั้งสองคนที่อยู่ในหลุมสองหลุมนี้กำลังถูกทรมาน และทั้งสองคนไม่ได้ถูกทรมานเพราะสิ่งใหญ่โตอะไร" หนึ่งในสองคนนี้มักจะไม่ระวังตัวเองจากการปัสสาวะ ส่วนอีกคนมักเดินใส่ร้ายผู้อื่น

10- มีชายคนหนึ่งถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เกี่ยวกับวันอวสาน และเขากล่าวว่า เมื่อใดคือวันอวสาน? เขากล่าวว่า “แล้วท่านได้เตรียมอะไรไว้บ้าง?”

11- “อยากให้ฉันเล่าให้พวกเจ้าฟังถึงลักษณะของดัจญาลหรือไม่? ซึ่งไม่เคยมีนบีท่านใดเล่าให้ประชาชาติของเขามาก่อน! แท้จริงแล้ว มันตาบอดข้างหนึ่ง และจะนำสิ่งเสมือนกับสวรรค์และนรกมาพร้อมกับเขา

12- ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์! โอ้ ชาวอาหรับจงระวังความชั่วที่กำลังใกล้เข้ามา วันนี้ได้มีการเปิดทางจากกำแพงของยะอฺญูจและมะอฺญูจ ซึ่งเปิดออกเหมือนกับนี้

13- “ฉันจะบอกให้พวกเจ้าทราบเอาไหมว่า ชาวสวรรค์นั้นคือพวกใด? คือคนที่อ่อนแอถ่อมตัว (สภาพทางดุนยาของเขาขาดแคลน ผู้คนดูถูกเหยียดหยามเขา) ถ้าหากเขาสาบานต่ออัลลอฮ์ พระองค์จะทรงให้เป็นไปตามที่เขาสาบาน ฉันจะบอกให้พวกเจ้าทราบเอาไหมว่า ชาวนรกนั้นคือพวกใด? คือคนที่หยาบคาย จองหอง ลำพองตน

14- “เมื่อมุสลิมถูกถามในหลุมศพ: เขาจะกล่าวคำปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรได้รับการเคารพสักการะอย่างแท้จริงนอกจากอัลลอฮ์ และแท้จริงมุฮัมมัดคือศาสนทูตของอัลลอฮ์

15- “ในวันกิยามะฮ์ ผู้ศรัทธาจะถูกนำเข้ามาใกล้พระเจ้าของเขา ผู้ทรงอำนาจและยิ่งใหญ่ จนกระทั่งพระองค์ทรงปกปิดบาปหรือข้อผิดพลาดของเขาไว้ (ไม่ให้ผู้อื่นรับรู้) แล้วพระองค์จะทรงให้เขารำลึกถึงบาปของเขา

16- ในวันกิยามะฮ์สองเท้าของบ่าวแต่ละคนจะไม่เคลื่อนจนกว่าเขาจะถูกสอบสวนเกี่ยวกับอายุของเขาว่าเขาใช้หมดไปในทางใด ความรู้ของเขาว่าเขานำมันไปปฏิบัติอย่างไร ทรัพย์สินของเขาว่าเขาได้มาอย่างไรและใช้จ่ายไปในทางใด และร่างกายของเขาว่าเขาใช้งานไปอย่างไร

17- พวกท่านรู้หรือไม่ว่า ใครคือคนล้มละลาย?

18- “ไม่มีเจ้าของทองและเจ้าของเงินคนใดที่ไม่ยอมจ่ายสิทธิของมัน(จ่ายซะกาต) เว้นแต่ในวันกิยามะฮ์จะมีแท่นหลายแท่นทำจากไฟนรก ถูกทำขึ้นสำหรับเขา

19- “ผู้ใดก็ตามที่กล่าว เมื่อเขาได้ยินการเรียกร้อง(การอาซาน) ว่า: (อัลลอฮุมมา ร็อบบะฮาสิหิดดะฮ์ วะติดตามมะฮ์ วัศเศาะลา ติลกออิมะฮ์ อาติ มุฮัมมะดะนิล วะซีละฮ์ วัลฟะดีละฮ์ วับอัษหุ มะกอมัม มะห์มู ดะนิลละซี วะอัดตะฮ์) ความว่า "โอ้พระเจ้าผู้เป็นเจ้าของการวิงวอนนี้(การอาซาน) และการละหมาดที่มั่นคง จงให้ได้มายังมูฮัมหมัดซึ่ง วาซีละห์(การใกล้ชิดพระองค์ หรือ ระดับชั้นในสวรรค์) และความประเสริฐเหนือผู้อื่น และจงให้เขาฟื้นคืนชีพในสถานที่ที่มีเกียรติ ที่พระองค์ทรงได้สัญญาไว้" เขาผู้นั้นจะได้รับการช่วยเหลือ(ชะฟาอะฮ์)จากฉันในวันโลกหน้า”

20- แท้จริงผู้ใดผู้หนึ่งในหมู่พวกเจ้า เมื่อได้เสียชีวิตลงแล้ว จะถูกเสนอให้เขาเห็นสถานที่อยู่ของเขาทั้งในตอนเช้าและตอนเย็น

21- “แท้จริงศาสนานี้จะไปถึงทุกที่ที่กลางวันและกลางคืนไปถึง อัลลอฮ์จะไม่ทรงทิ้งบ้านแม้แต่หลังเดียวไม่ว่าจะในเมืองหรือในชนบท อัลลอฮ์ก็จะทรงนำศาสนานี้เข้าไป

22- แท้จริง อัลลอฮ์จะไม่อธรรมต่อผู้ศรัทธาแม้จะเป็นความดีแค่หนึ่งเดียว โดยพระองค์จะตอบแทนให้บนโลกนี้ และให้การตอบแทนในวันอาคิเราะฮ์

23- แท้จริงส่วนหนึ่งของสัญญาณแห่งกาลอวสานนั้นคือ ความรู้จะถูกนำออกไป ความเขลาจะเพิ่มมากขึ้น การผิดประเวณีจะเพิ่มมากขึ้น การดื่มเหล้าจะเพิ่มมากขึ้น ผู้ชายจะลดน้อยลง และผู้หญิงจะเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งจะมีผู้พิทักษ์หนึ่งคนต่อผู้หญิงห้าสิบคน

24- วันสิ้นโลกจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าชายคนหนึ่งจะเดินผ่านหลุมฝังศพของชายอีกคนหนึ่งแล้วพูดว่า: "ช่างดีแค่ไหนหากฉันได้อยู่ในที่ของเขา

25- วันอวสานโลกจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าพวกเจ้าจะทำสงครามกับชาวยิว จนกระทั่งก้อนหินที่มีชาวยิวอยู่ข้างหลังจะพูดขึ้นว่า: โอ้ มุสลิมเอ๋ย มีคนยิวอยู่ข้างหลังฉัน จงฆ่ามัน

26- “ขอสาบานต่อพระองค์ผู้ซึ่งชีวิตฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ อีกไม่นานบุตรของมัรยัมจะลงมาหาพวกเจ้าในฐานะผู้นำที่เที่ยงธรรม ท่านจะหักไม้กางเขน ฆ่าหมู และเก็บญิสยะฮ์(ภาษีจากผู้ไม่ศรัทธา) และจะมีเงินทองที่ท่วมท้นจนไม่มีใครจะรับมัน”

27- “วันกิยามะฮ์จะยังไม่อุบัติขึ้นจนกว่าดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก เมื่อมันขึ้นมาทางทิศตะวันตกแล้วมวลมนุษย์จะกลายเป็นผู้ศรัทธามั่น

28- วันกิยามะฮ์จะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าเวลาจะเข้าใกล้กัน

29- “อัลลอฮ์จะทรงกำแผ่นดินและทรงม้วนชั้นฟ้าทั้งหลายด้วยมือขวาของพระองค์ แล้วพระองค์จะตรัสว่า “ฉันคือกษัตริย์ บรรดากษัตริย์ในโลกนี้อยู่ที่ไหน?

30- “อ่างเก็บน้ำของฉันนั้นกว้างเทียบเท่าการเดินทางถึงหนึ่งเดือน น้ำของมันมีสีขาวยิ่งกว่าน้ำนม มีกลิ่นหอมยิ่งกว่าชะมดเชียง

31- ฉันจะอยู่ที่อ่างเก็บน้ำเพื่อที่ฉันจะได้ดูว่ามีใครบ้างในพวกเจ้าที่จะมาหาฉัน แต่บางคนจะถูกกันไม่ให้เข้าถึงฉัน ดังนั้นฉันจะกล่าวว่า "ข้าแต่พระผู้อภิบาลของฉัน พวกเขาเป็นของฉันและเป็นประชาชาติของฉัน

32- ขอสาบานต่อผู้ที่ชีวิตของมูฮัมมัดอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์แท้จริงถ้วยของมันจะมีจำนวนมากกว่าดวงดาวในท้องฟ้าและดาวเคราะห์

33- “ความตายจะถูกนำมาโดยถูกจำแลงเป็นแกะอ้วนตัวหนึ่ง

34- “ไฟที่พวกเจ้าใช้กันอยู่นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากเจ็ดสิบส่วนของความร้อนจากไฟนรกญะฮันนัม

35- ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้เล่าแก่พวกเรา และท่านเป็นคนสัตย์จริงและถูกรับรองในความสัตย์จริงนั้น โดยกล่าวว่า “แท้จริงการบังเกิดของพวกเจ้าแต่ละคนนั้น จะถูกรวบรวมอยู่ในครรภ์มารดาเป็นเวลาสี่สิบวันในรูปของน้ำอสุจิ

36- ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวถึงบางสิ่ง และกล่าวว่า: "นั่นคือเวลาที่ความรู้จะหายไป

37- ขอบเขตที่พวกเขาทรยศต่อเจ้า ไม่เชื่อฟังเจ้า และโกหกเจ้านั้นวัดกันที่ว่าเจ้าลงโทษพวกเขามากเพียงใด

38- พระองค์ผู้ทรงให้พวกเขาสามารถเดินด้วยเท้าได้บนโลกดุนยานี้ จะไม่ทรงสามารถทำให้พวกเขาเดินด้วยใบหน้าในวันกิยามะฮ์ได้อย่างนั้นหรือ?

39- (แล้วในวันนั้นพวกเจ้าจะถูกสอบถามเกี่ยวกับความโปรดปรานที่ได้รับ ในโลกดุนยา)

40- “ในยุคสุดท้ายของประชาชาติของฉัน จะมีมนุษย์กลุ่มหนึ่งซึ่งพวกเขาจะเล่าให้พวกเจ้าฟังในสิ่งที่พวกเจ้าและบรรพบุรุษของพวกเจ้าไม่เคยได้ยินมาก่อน ดังนั้นจงระวังตัวพวกเจ้า และจงห่างไกลจากพวกเขา”

41- “เมื่อพวกเจ้าได้ยินผู้ที่ประกาศเรียกสู่การละหมาด ก็จงกล่าวตามอย่างที่เขากล่าว แล้วจงทำการเศาะละวาตต่อฉัน

42- ผู้ใดที่เขามีการอธรรมต่อพี่น้องของเขาในเรื่องเกียรติ์ศักดิ์ศรีของเขาหรือสิ่งอื่นใด เขาก็จงไปขออภัย(ฮะลาล)กับเขาเสียแต่ในวันนี้เถิด ก่อนที่ถึง(วัน)ที่ไม่มีทองไม่มีเงิน

43- ผู้คนจะถูกฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮฺในสภาพเท้าเปล่า เปลือยกาย และไม่ขลิบ

44- ผู้ที่ทำการอาซานนั้น จะเป็นคนที่คอที่ยาวที่สุดในวันปรโลก

45- เมื่อศพถูกวางไว้ และมีผู้ชายได้หามบนไหล่ของพวกเขา หากศพนั้นเป็นศพที่ดี ศพนั้นจะพูดว่า รีบนำฉันไปเถิด

46- ً"ในวันกิยามะฮ์นั้นดวงอาทิตย์จะถูกนำมาใกล้กับสรรพสิ่งทุกอย่าง จนกระทั่งใกล้กับตัวพวกเขาแค่หนึ่งไมล์

47- ผู้ใดที่ท่องจำสิบอายะฮ์แรกของซูเราะห์ อัล-กะฮ์ฟิ เขาจะได้รับการปกป้องจากดัจญาล" และในบางรายงาน กล่าวว่า: “จากตอนท้ายของซูเราะห์ อัล-กะฮ์ฟิ”

48- คุณจะได้รับสิ่งที่คุณปรารถนาในฝันและเช่นเดียวกันกับมัน

49- อัลลอฮ์จะรวบรวมมนุษย์ทั้งคนกลุ่มแรกและกลุ่มสุดท้ายไว้ในสถานที่แห่งหนึ่ง ทุกคนจะได้ยินเสียงผู้เรียก และสายตาจะมองเห็นพวกเขาได้ทั้งหมด พระอาทิตย์จะเข้าใกล้ จนผู้คนจะรู้สึกทุกข์ทรมานและกังวลใจจนเกินจะทนได้

50- กลุ่มแรกที่เข้าสู่สวรรค์จะอยู่ในรูปของดวงจันทร์ในคืนเต็มดวง จากนั้นกลุ่มที่ตามมาจะอยู่ในรูปของดาวที่สว่างไสวที่สุดในท้องฟ้า

51- ดังนั้นหากพวกท่านวอนขอสิ่งใดจากอัลลอฮ์ จงขอ "อัลฟิรเดาส์" เถิด”