ฟิกฮุ อิบาดะฮฺ (ฟิกฮ์ที่เกี่ยวกับอิบาดะฮ์)

ฟิกฮุ อิบาดะฮฺ (ฟิกฮ์ที่เกี่ยวกับอิบาดะฮ์)

68- ฉันได้ให้สัตยาบัน​แก่ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในการยึดมั่นคำกล่าวชะฮาดะ​ฮ​์ (คำปฏิญาณตน)​ ว่าไม่มีพระเจ้า​อื่น​ใด​ที่​ควร​ได้รับ​การ​เคา​ร​พอ​ิ​บา​ดะ​ฮ​์​ นอกจาก​อัลลอฮ์เพียง​พระองค์​เดียว​ และมุฮ​ั​มมัดเป็นศาสนทูต​ของพระองค์​ การดำรงไว้ซึ่งการละหมาด การจ่ายซะ​กาต​ การเชื่องฟังและการน้อมรับ และการให้คำตักเตือน​แก่มุสลิมทุกคน

111- “ผู้ใดก็ตามที่กล่าว เมื่อเขาได้ยินการเรียกร้อง(การอาซาน) ว่า: (อัลลอฮุมมา ร็อบบะฮาสิหิดดะฮ์ วะติดตามมะฮ์ วัศเศาะลา ติลกออิมะฮ์ อาติ มุฮัมมะดะนิล วะซีละฮ์ วัลฟะดีละฮ์ วับอัษหุ มะกอมัม มะห์มู ดะนิลละซี วะอัดตะฮ์) ความว่า "โอ้พระเจ้าผู้เป็นเจ้าของการวิงวอนนี้(การอาซาน) และการละหมาดที่มั่นคง จงให้ได้มายังมูฮัมหมัดซึ่ง วาซีละห์(การใกล้ชิดพระองค์ หรือ ระดับชั้นในสวรรค์) และความประเสริฐเหนือผู้อื่น และจงให้เขาฟื้นคืนชีพในสถานที่ที่มีเกียรติ ที่พระองค์ทรงได้สัญญาไว้" เขาผู้นั้นจะได้รับการช่วยเหลือ(ชะฟาอะฮ์)จากฉันในวันโลกหน้า”

115- “ใครก็ตามที่กล่าวตัสบีห์ (สุบหานัลลอฮ์) หลังจากการละหมาดทุกเวลาสามสิบสามครั้ง และกล่าวตะห์มีด(อัลหัมดุลิลลาฮ์) สามสิบสามครั้ง และกล่าวตักบีร (อัลลอฮุอักบัร) สามสิบสามครั้ง ซึ่งทั้งหมดนั้นรวมเป็นเก้าสิบเก้าครั้ง และครบหนึ่งร้อยด้วยการที่เขากล่าวว่า: " لَا إِلَهَ إِلَّا اللهُ وَحْدَهُ لَا شَرِيكَ لَهُ، لَهُ الْمُلْكُ وَلَهُ الْحَمْدُ وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ คำอ่าน: "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮุ วะห์ดะฮู ลา ชะรีกะละฮ์, ละฮุลมุลกุ วะละฮุลหัมดุ วะฮุวา อะลา กุลลิชัยอิน เกาะดีร" เขาจะได้รับการอภัยโทษจากความผิดทั้งหลาย แม้มันจะมีมากเท่าฟองน้ำในท้องทะเลก็ตาม”