1- “ผู้ใดที่ประกอบพิธีหัจญ์โดยที่เขางดการมีเพศสัมพันธ์ และไม่กระทำสิ่งชั่วช้าใดๆ เขาผู้นั้นจะกลับมาเสมือนวันที่มารดาของเขาได้คลอดเขาออกมา”

2- “ไม่มีการละหมาดเมื่ออาหารถูกเสิร์ฟ และในสภาพที่เขากำลังอดกลั้นสิ่งไม่ดีทั้งสอง(คือปัสสาวะและอุจจาระ)

3- หากคุณกล่าวแก่เพื่อนของคุณว่า "จงเงียบ" ในวันศุกร์ ขณะที่อิหม่ามกำลังอ่านคุฏบะฮ์ แสดงว่าคุณได้ทำให้ผลบุญของการละหมาดวันศุกร์นั้นเป็นโมฆะ

4- สิ่งที่เป็นธรรมชาติ 5 ประการคือ การขลิบ การโกนขนลับ การขลิบหนวด การตัดเล็บและการถอนขนรักแร้

5- พวกท่านจงเล็มหนวดและจงไว้เครา

6- ผู้ใดอาบน้ำละหมาดอย่างฉัน แล้วละหมาด 2 ร็อกอะฮด้วยความบริสุทธิ์ใจ อัลลอฮ์จะอภัยโทษให้แก่เขาในบาปที่เขาได้กระทำมา

7- ً"โอ้อัลลอฮ์ได้โปรดอย่าทำให้สุสานของฉันเป็นที่บูชา

8- “แท้จริงการละหมาดที่เป็นภาระหนักที่สุดสำหรับผู้กลับกลอกคือการละหมาดอิชาอ์และละหมาดฟัจร์ และหากพวกเขารู้ถึงคุณค่าที่มีอยู่ในละหมาดทั้งสองเวลานั้น แน่นอนพวกเขาจะมาทำการละหมาดเวลาทั้งสองนั้น แม้ว่าจะต้องคลานมาก็ตาม

9- อัลลอฮ์จะไม่ทรงตอบรับการละหมาดของคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้า ในขณะที่เขามีหะดัษ จนกว่า เขาจะอาบน้ำละหมาด

10- อัสสิวากนั้น เป็นที่ทำความสะอาดช่องปาก และเป็นที่พึงพอใจสำหรับผู้อภิบาล

11- การละหมาดห้าเวลา และระหว่างวันศุกร์หนึ่งไปยังอีกวันศุกร์หนึ่ง และระหว่างเราะมะฎอนหนึ่งไปยังอีกเราะมะฎอนหนึ่ง จะลบล้างความผิดในช่วงระยะเวลาระหว่างนั้น หากว่าเขาออกห่างจากการทำบาปใหญ่

12- ไม่นับว่าเป็นผู้ที่เชื่อมสัมพันธ์ สำหรับผู้ที่ถือปฏิบัติการเชื่อมสัมพันธ์เฉพาะผู้ที่เชื่อมต่อกับเขา แต่ผู้ที่ทำการเชื่อมสัมพันธ์ที่แท้จริงนั้นคือเมื่อมีการตัดการเชื่อมสัมพันธ์กับเขา เขาก็เชื่อมสัมพันธ์นั้น

13- ผู้ใดที่ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนด้วยความศรัทธามั่นและหวังในผลบุญ เขาจะได้รับการอภัยโทษจากบาปของเขาที่ผ่านมา

14- “ผู้ใดที่ลุกขึ้น(ละหมาดและประกอบอิบาดะฮ์)ในคืนลัยละตุลก็อดร์ ด้วยความศรัทธามั่นและหวังในผลบุญ เขาจะได้รับการอภัยโทษจากบาปของเขาที่ผ่านมา

15- จงปล่อยฉันกับสิ่งที่ฉันทิ้งไว้ให้แก่พวกเจ้า! แท้จริงแล้ว ผู้คนที่มาก่อนพวกเจ้าได้ประสบกับความหายนะเนื่องจากคำถามและการโต้เถียงกับศาสนทูตของพวกเขา

16- แท้จริงสิ่งที่อนุมัติ (หะลาล) นั้นชัดเจนและสิ่งที่ต้องห้าม

17- แท้จริงอัลลอฮ์ได้ทรงบัญญัติให้กระทำความดีต่อทุก ๆ สิ่ง

18- อย่าได้ทำอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น ผู้ใดทำอันตราย อัลลอฮ์จะทรงทำอันตรายต่อเขา และผู้ใดสร้างความลำบาก อัลลอฮ์จะสร้างความลำบากแก่เขา

19- “มลาอิกะฮ์ญิบรีลสั่งเสียฉันอย่างต่อเนื่องให้ปฏิบัติดีต่อเพื่อนบ้าน จนฉันคิดว่า เขาจะได้รับมรดกของเพื่อนบ้านเขาด้วย”

20- “แท้จริงการเสกเป่า เครื่องรางของขลังต่าง ๆ และเครื่องของเสน่ห์ต่าง ๆ นั้น เป็นการตั้งภาคี

21- “พวกเจ้าอย่าได้ด่าทอคนที่เสียชีวิตไปแล้ว เพราะพวกเขาได้ไปถึงสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้แล้ว

22- “ผู้ใดที่ละหมาดศุบห์เขาจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของอัลลอฮ์

23- การบริจาคทานนั้นมิได้ทำให้ทรัพย์สินลดน้อยลง และอัลลอฮ์จะไม่ทรงเพิ่มพูนสิ่งใดให้แก่บ่าวคนหนึ่งที่ให้อภัยต่อผู้อื่น นอกจากเกียรติยศ และจะไม่มีผู้ใดที่นอบน้อมถ่อมตนต่ออัลลอฮ์ นอกจากอัลลอฮ์จะทรงยกเขา

24- บรรดาผู้ศรัทธาที่มีอีหม่านสมบูรณ์ที่สุด คือผู้ที่มีมารยาทที่ดีที่สุดในหมู่พวกเขาและคนที่ดีที่สุดในหมู่พวกเจ้า คือผู้ที่ปฏิบัติอย่างดีที่สุด ต่อบรรดาสตรีของเขา

25- โลกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ให้ความสุข และสิ่งที่ให้ความสุขที่ดีที่สุดในโลกนี้ คือผู้หญิงที่ดี

26- อัลลอฮฺ ตะอาลาตรัสว่า:"โอ้ลูกหลานอาดัมเอ๋ย จงใช้จ่ายในหนทางของฉันเถิด แท้จริงฉันเป็นผู้ให้ปัจจัยยังชีพแก่เจ้า

27- เงื่อนไขที่คุณต้องยึดปฏิบัติมากที่สุด คือสิ่งที่ทำให้การมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นที่อนุมัติ

28- ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จะกล่าวประโยคนี้ทุกครั้งหลังการละหมาด

29- ไม่มีวันใดๆ ที่การงานที่ดีจะเป็นที่ชื่นชอบที่สุดสำหรับอัลลอฮฺมากกว่าในวันเหล่านี้ (หมายถึงสิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮ์

30- ผู้ใดทิ้งละหมาดอัศร์ แน่นอนการงานของเขาก็จะเป็นโมฆะ

31- ผู้ใดที่อาบน้ำละหมาดอย่างสมบูรณ์ ความผิดต่างๆ ของเขาจะหลุดออกไปจากร่างกายของเขา จะหลุดออกจนกระทั่งจากใต้เล็บของเขา

32- เมื่อชายคนหนึ่งใช้จ่ายให้แก่ครอบครัวของเขาเพื่อหวังในผลบุญ ดังนั้นการกระทำของเขานั้นถือเป็นการให้ทานอย่างหนึ่ง

33- ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ห้ามการตัดผมบางส่วนและให้เหลือไว้บางส่วน

34- พวกท่านทั้งหลายจงทำความสะอาดให้ดีหลังจากปัสสาวะ เพราะแท้จริงการลงโทษทั่วๆ ไปในหลุมฝังศพนั้นเกิดจากมัน

35- พวกท่านอย่าได้นั่งบนหลุมฝังศพ และอย่าได้ละหมาดด้วยการหันไปทางมัน

36- พวกเขาคือกลุ่มชนที่หากในหมู่พวกเขามีบ่าวที่ศอลิห์หรือคนศอลิห์เสียชีวิต พวกเขาก็จะสร้างมัสยิดบนหลุมศพของเขา

37- “ฉันได้รับบัญชาให้สุญูดบนกระดูกเจ็ดชิ้น

38- ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอิวะสัลลัม จะกล่าวในระหว่างสองสุญูดว่า "อัลลอฮุมมัฆฟิรลี วัรฮัมนี วะอาฟินี วะฮ์ดินี วัรซุกนี" ความว่า "โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงอภัยโทษให้แก่ฉัน ทรงเมตตาต่อฉัน ทรงทำให้ฉันมีสุขภาพแข็งแรง ทรงให้ทางนำแก่ฉัน และทรงโปรดประทานปัจจัยยังชีพให้แก่ฉันด้วยเถิด

39- اللهم أنت السلام ومنك السلام، تباركت يا ذا الجلال والإكرام” ความว่า “โอ้ พระผู้อภิบาลของข้า พระองค์คือผู้ทรงเปี่ยมด้วยสันติ จากพระองค์นั้นคือที่มาของสันติ ความจำเริญยิ่งแด่พระองค์ โอ้ผู้เปี่ยมด้วยความยิ่งใหญ่และเกียรติยศ

40- “เจ้าจงละหมาดในสภาพที่ยืน หากไม่สามารถยืนได้ก็ให้นั่ง หากไม่สามารถนั่งได้ก็ให้นอนตะแคง”

41- ท่านได้ยินเสียงอะซานเรียกมาละหมาดหรือไม่?” ชายคนนั้นตอบว่า ใช่ ได้ยิน ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็กล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นท่านจำเป็นต้องตอบรับเสียงอะซาน”

42- เมื่อคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้ามาละหมาด แล้วเห็นอีหม่ามกำลังอยู่ในอิริยาบถใด ก็ให้เขาทำอิริยาบทตามที่อีหม่ามกำลังทำอยู่

43- ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้สอนสำนวนการคุฏบะฮ์ฮาญะฮ์

44- ไม่มีการแต่งงาน นอกจากด้วยผู้ปกครอง

45- ผู้ใดที่ฆ่าผู้ปฏิเสธศรัทธาที่อยู่ในฐานะผู้มีพันธสัญญา (มุอาฮัด) เขาจะไม่ได้สัมผัสความหอมของสวรรค์ และแท้จริงความหอมของสวรรค์นั้น จะแผ่กระจายถึงระยะทาง 40 ปีของการเดินทาง

46- ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้สาปแช่งผู้ที่ให้สินบน และผู้ที่รับมันในการตัดสินคดี

47- “อิสลามถูกสร้างขึ้นบนหลักห้าประการ

48- ท่านมีความเห็นอย่างไร หากฉันได้ทำการละหมาดตามที่ถูกบัญญัติไว้ ฉันถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน และสิ่งที่อนุมัติฉันก็ยึดถือ และสิ่งที่ต้องห้ามฉันก็ยึดถือ

49- ความสะอาดเป็นครึ่งหนึ่งของการศรัทธา และการกล่าว "อัลหัมดุลิลลาฮ์" ผลบุญของมันจะเต็มตาชั่งในวันกิยามะฮ์ การกล่าวว่า "สุบหานัลลอฮ์และ อัลหัมดุลิลลาฮ์" ผลบุญของทั้งสองประโยคหรือผลบุญของแต่ละประโยคนั้นจะเต็มระหว่างบรรดาฟากฟ้าและแผ่นดิน

50- หายนะแห่งนรก จะประสบกับส้นเท้า จงอาบน้ำละหมาดให้สมบูรณ์เถิด

51- “เมื่อมุอัซซิน (ผู้ประกาศเมื่อถึงเวลาละหมาด) กล่าวว่า "อัลลอฮุอักบัร อัลลอฮุอักบัร"(อัลลอฮ์ผู้ยิ่งใหญ่) ดังนั้นคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้าก็กล่าวตามว่า "อัลลอฮุอักบัร อัลลอฮุอักบัร

52- ผู้ใดที่ลืมละหมาดใดละหมาดหนึ่ง ดังนั้นเขาจงละหมาดเมื่อนึกขึ้นได้ ไม่มีการลบล้างบาปสำหรับการทิ้งละหมาดนอกจากด้วยการละหมาด

53- แท้จริงสิ่งที่ทำให้บุคคลหนึ่งเข้าสู่การตั้งภาคีและการปฏิเสธศรัทธานั้นคือการละทิ้งละหมาด

54- แท้จริงพันธสัญญาระหว่างเรากับพวกเขาคือการละหมาด ดังนั้นใครก็ตามที่ละทิ้งมัน แท้จริงเขาได้ปฏิเสธศรัทธา

55- ในการทำสงครามของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ครั้งหนึ่งนั้นได้พบผู้หญิงคนหนึ่งถูกสังหาร ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมจึงประณามการฆ่าผู้หญิงและเด็ก

56- ห้ามการนะซัร คือ โดยท่านกล่าวว่า “มันไม่ได้นำมาซึ่งความดี แต่มันจะถูกดึงออกมาใช้จากคนตระหนี่”

57- ฉันขอสาบานต่ออัลลอฮ์ - หากพระเจ้าทรงประสงค์” - ฉันจะไม่สาบาน และฉันคิดว่ามีสิ่งอื่นดีกว่านั้น เว้นแต่ฉันจะชดใช้คำสาบานของฉัน และฉันจะนำมาในสิ่งที่ดีกว่านั้น”

58- “สิ่งแรกที่จะถูกตัดสินในหมู่ผู้คนในวันกิยามะฮ์คือเรื่องที่เกี่ยวกับการนองเลือด”

59- ผู้ที่ต่อสู้เพื่อให้พระวจนะของอัลลอฮ์เป็นที่สูงส่ง เขาคือผู้ที่ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์

60- “เมื่อพวกเจ้าได้ยินเสียงประกาศ(เรียกสู่การละหมาด) ก็จงกล่าวตามที่ผู้ประกาศได้กล่าวไว้”

61- ปล่อยมันไว้(ไม่ต้องถอด) เพราะฉันได้ใส่มันทั้งสองในสภาพที่ทั้งสองนั้นสะอาด

62- นั่นเป็นเลือดอิสติฮาเฎาะฮ์เหมือนเหงื่อ แต่จงหยุดละหมาดตามจำนวนวันที่คุณมีประจำเดือน จากนั้นจงอาบน้ำและทำการละหมาด”

63- จงจัดแถวของพวกท่านให้ตรง เพราะการจัดแถวให้ตรงนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการละหมาดที่สมบูรณ์

64- “เมื่อคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้าอาบน้ำละหมาด ก็จงให้เขาสูดน้ำเข้าจมูกแล้วสั่งออกมา และผู้ใดทำความสะอาดด้วยหิน ก็ให้เขาใช้หินเป็นจำนวนคี่

65- “แท้จริง โลกนี้ช่างหอมหวานและเขียวขจี และแท้จริงอัลลอฮ์ได้ทรงแต่งตั้งพวกเจ้าให้เป็นคอลีฟะฮ์เพื่อจัดการสิ่งที่อยู่ในนั้น แล้วพระองค์จะทรงดูว่าพวกเจ้ากระทำเช่นไร ดังนั้น จงระวังโลกนี้และระวังผู้หญิง

66- ฉันได้จำมาจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เกี่ยวกับสิบร็อกอะฮ์

67- ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ตื่นขึ้นในเวลากลางคืน เขาจะบ้วน (ทำความสะอาด) ปากด้วยสิวาก

68- ผู้ศรัทธาชาย(สามี) จงอย่าได้เกลียดผู้ศรัทธาหญิง(ภรรยา) หากเขาไม่พอใจพฤติกรรมบางอย่างจากนาง แน่นอนเขาพอใจกับพฤติกรรมอื่นของนาง

69- “เมื่อพวกเจ้าต้องการถ่ายหนักหรือถ่ายเบา ก็จงอย่าหันหน้าไปทางกิบละฮ์ และอย่าหันหลังให้กับมัน แต่ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก”

70- คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านจงอย่าสัมผัสอวัยวะเพศของตัวเองด้วยมือขวาขณะปัสสาวะ และอย่าทำความสะอาดอุจจาระด้วยมือขวา และอย่าหายใจเข้าไปในภาชนะ

71- “คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้าไม่เกรงกลัว หรือ:ไม่มีใครในหมู่พวกเจ้ากลัวหรือ? เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก่อนอิหม่าม อัลลอฮ์จะทรงทำให้หัวของเขาเป็นหัวลา หรือให้รูปร่างของเขาเป็นรูปร่างของลา”

72- ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ท่านจะยกมือทั้งสองของท่านเสมอบ่าเมื่อท่านเริ่มทำการละหมาด

73- ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้สอนฉันเกี่ยวกับการตะชะฮ์ฮุด ในขณะที่มือทั้งสองของฉันอยู่ในมือทั้งสองของท่าน เหมือนดังท่านได้สอนซูเราะฮ์อัลกุรอาน

74- اللَّهُمَّ إِنِّي أَعُوذُ بِكَ مِنْ عَذَابِ القَبْرِ، وَمِنْ عَذَابِ النَّارِ، وَمِنْ فِتْنَةِ المَحْيَا وَالمَمَاتِ، وَمِنْ فِتْنَةِ المَسِيحِ الدَّجَّالِ

75- «اللهُمَّ بَاعِدْ بَيْنِي وَبَيْنَ خَطَايَايَ كَمَا بَاعَدْتَ بَيْنَ الْمَشْرِقِ وَالْمَغْرِبِ

76- “ถ้าสุนัขตัวหนึ่งดื่มจากชามใบหนึ่งของเจ้า ก็ให้เขาล้างมันเจ็ดครั้ง”

77- ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เมื่อท่านจะเข้าห้องน้ำ ท่านจะกล่าวว่า:"«اللَّهُمَّ إِنِّي أَعُوذُ بِكَ مِنَ الخُبُثِ وَالخَبَائِثِ».(โอ้ อัลลอฮ์ แท้จริงฉันขอการปกป้องต่อพระองค์จากความชั่วร้ายของชัยฏอนเพศชายและเพศหญิง)

78- “ผู้ที่ขออัลลอฮ์ให้ได้รับความตายเป็นชะฮีดด้วยความสัตย์จริง อัลลอฮ์จะให้เขาเข้าถึงตำแหน่งของชะฮีด แม้เขาจะตายบนเตียงของเขาเอง”

79- วิธีการอาบน้ำญะนาบะฮ์*

80- เมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอิวะสัลลัม จะอาบน้ำจากการมีญะนาบะฮ์ ท่านจะเริ่มด้วยการล้างมือทั้งสอง แล้วท่านจะทำการอาบน้ำละหมาด จากนั้นท่านก็จะอาบน้ำ

81- ฉันเป็นชายที่มักจะมีน้ำมะซีย์ออกบ่อย และฉันรู้สึกละอายที่จะถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เพราะรักษาเกียรติของลูกสาวของท่าน ดังนั้นฉันจึงใช้ให้อัลมิกด๊าด บิน อัลอัสวัด ถามท่าน และท่านก็กล่าวว่า: "ให้เขาล้างอวัยวะเพศของเขาจากนั้นให้ทำการอาบน้ำละหมาด

82- งานใดที่อัลลอฮ์รักมากที่สุด? ท่านตอบว่า “การละหมาดตามเวลาของมันที่กำหนดไว้” เขากล่าวว่า แล้วอะไรอีก? ท่านตอบว่า: “จากนั้นคือการทำความดีต่อพ่อแม่” เขากล่าวว่า: แล้วอะไรอีก? ท่านตอบว่า “การญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์”

83- “ไม่มีวันใดที่บ่าวจะตื่นขึ้นในตอนเช้า เว้นแต่ว่ามะลาอิกะฮ์สองตนจะลงมา และตนหนึ่งกล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้า โปรดประทานคืนแก่ผู้ใช้จ่าย และอีกตนหนึ่งกล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้า โปรดประทานแก่ผู้ที่ตระหนี ซึ่งความเสียหาย”

84- ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ หากอัลลอฮ์ทรงประทานทางสว่างแก่คนใด เนื่องจากการเชิญชวนของเจ้า มันจะดีสำหรับเจ้ายิ่งกว่าการที่เจ้าได้ครอบครองอูฐสีแดง”

85- “ผู้ใดได้จัดเตรียมเสบียงให้แก่นักรบในหนทางของอัลลอฮ์ก็เท่ากับเขาได้ออกสงคราม และผู้ใดที่อยู่ข้างหลังนักรบในหนทางของอัลลอฮ์ด้วยความดีงามก็เท่ากับเขาได้ออกสงคราม”

86- แล้วอาบน้ำละหมาดตามวิธีของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ให้พวกเขาดู

87- จริงๆ แล้วที่เจ้าต้องทำคือเพียงแค่ใช้มือทั้งสองข้างของเจ้าแบบนี้" จากนั้นท่านก็ใช้มือทั้งสองของท่านตีพื้นดินหนึ่งครั้ง แล้วท่านก็เช็ดมือซ้ายบนมือขวา โดยเช็ดหลังมือและใบหน้าของท่าน

88- ไม่มีศาสดาท่านใดที่อัลลอฮ์ได้ส่งมายังกลุ่มชนหนึ่งก่อนหน้าฉัน เว้นแต่จะมีสำหรับเขาซึ่งจากกลุ่มผู้สนับสนุนอย่างใกล้ชิดและบรรดาสาวก พวกเขาจะยึดตามแนวทางของเขา และพวกเขาจะทำตามคำสั่งของเขา

89- ฉันได้ให้สัตยาบัน​แก่ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในการยึดมั่นคำกล่าวชะฮาดะ​ฮ​์ (คำปฏิญาณตน)​ ว่าไม่มีพระเจ้า​อื่น​ใด​ที่​ควร​ได้รับ​การ​เคา​ร​พอ​ิ​บา​ดะ​ฮ​์​ นอกจาก​อัลลอฮ์เพียง​พระองค์​เดียว​ และมุฮ​ั​มมัดเป็นศาสนทูต​ของพระองค์​ การดำรงไว้ซึ่งการละหมาด การจ่ายซะ​กาต​ การเชื่องฟังและการน้อมรับ และการให้คำตักเตือน​แก่มุสลิมทุกคน

90- ฉันขอแนะนำว่าท่านอย่าได้พลาดที่จะอ่านดุอาอ์บทนี้ทุกครั้งหลังละหมาด” ให้ท่านอ่านว่า "อัลลอฮุมมะ อาอินนี อะล่า ซิกริกะ วะ ชุกรีกะ วะ ฮุสนิ อิบาดะติกะ" ความว่า ” “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์ระลึกถึงพระองค์ ขอบพระคุณในความโปรดปรานของพระองค์ และเป็นผู้นมัสการพระองค์ด้วยดีเถิด”

91- อัลลอฮ์ตรัสว่า: ทุก ๆ การงานของลูกหลานอาดัมนั้นเป็นของเขา ยกเว้นการถือศีลอด เพราะว่ามันสำหรับฉันและฉันจะตอบแทนมันเอง

92- “โอ้อัลลอฮ์ ฉันขอความคุ้มครองด้วยความโปรดปรานของพระองค์ท่าน จากความโกรธกริ้วของพระองค์ และด้วยการประทานอภัยโทษของพระองค์ ให้ฉันปลอดภัยจากการลงโทษของพระองค์ และฉันขอความคุ้มครองด้วยพระองค์ท่าน จากพระองค์ท่าน ฉันไม่อาจคำนวณนับการสดุดีต่อพระองค์ได้ ดังที่พระองค์ทรงสดุดีพระองค์เอง”

93- ฉันถามท่านหญิงอาอิชะฮ์ โดยฉันถามว่า: ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เริ่มปฏิบัติสิ่งใดเมื่อท่านเข้าไปในบ้านของท่าน? เธอกล่าวว่า: ด้วยการสิว๊าก

94- มีการกล่าวถึงต่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ซึ่งมีชายผู้หนึ่งหลับทั้งคืนจนถึงเช้า ท่านจึงกล่าวว่า “นั่นคือชายผู้หนึ่งที่ซาตานปัสสาวะในหูทั้งสองของเขา หรือท่านพูดว่า: ในหูของเขา”

95- “ชัยฏอนจะผูกปมที่ต้นคอคนหนึ่งคนใดเมื่อนอนหลับจำนวนสามปมด้วยกัน แต่ละปมจะมีการย้ำคำว่า เจ้ายังมีเวลาหลับอีกยาวนาน ฉะนั้นจงหลับต่อไป

96- “เจ้าต้องสุญูดต่ออัลลอฮ์มากๆ เพราะแท้จริงเจ้าไม่สุญูดต่ออัลลอฮ์ครั้งใด นอกจากอัลลอฮ์จะทรงยกสถานะของเจ้าด้วยการสุญูดนั้นหนึ่งขั้น และทรงลบล้างบาปออกจากเจ้าด้วยเช่นกัน”

97- ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จะจริงจังอย่างหนักในช่วงสิบคืนสุดท้ายในแบบที่เขาไม่เคยจริงจังอย่างหนักในครั้งอื่นใด

98- เท้าของบ่าวคนใดที่มีฝุ่นเกาะเนื่องจากการต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์ เท้าของเขาจะไม่ถูกต้องไฟนรก

99- ผู้ใดที่เขาพึงพอใจให้พระองค์อัลลอฮ์ทรงทำให้เขาปลอดภัยจากความทุกข์โศก ณ วันกิยามะฮ์ ให้เขาจงผ่อนปรน (ยืดระยะเวลา) แก่ผู้ลำบาก (หมายถึงลูกหนี้ของเขา) หรือไม่ก็ยกหนี้ให้แก่ (ลูกหนี้ของ) เขา

100- ผู้ใดที่ละหมาดในสองช่วงเวลาที่เยือกเย็น ย่อมได้เข้าสวนสวรรค์