1- เอาไหมฉันจะบอกแก่พวกเจ้าถึงสิ่งที่เป็นบาปใหญ่ที่สุดในบรรดาบาปใหญ่ทั้งหลาย?

2- เมื่อคนๆ หนึ่งรักพี่น้องของเขา ก็จงบอกให้เขารู้ว่ารักเขา

3- บาปใหญ่ คือ การตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์ การเนรคุณต่อบิดามารดา การฆ่าชีวิตที่บริสุทธิ์และการสาบานเท็จ

4- “ผู้ที่ดูแลหญิงม่ายและคนขัดสน เสมือนกับผู้ที่ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์หรือเหมือนผู้ที่ยืนละหมาดในตอนกลางคืน และผู้ที่ถือศีลอดในตอนกลางวัน”

5- พวกเจ้าจงออกห่างจากเจ็ดสิ่งอันตรายที่จะนำมาซึ่งความพินาศ

6- ข้าคือผู้ที่สูงส่งเหนือการมีหุ้นส่วนทั้งหลาย บริสุทธิ์จากการตั้งภาคี ใครก็ตามที่ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งซึ่งมีการตั้งภาคีกับสิ่งอื่นร่วมกับข้า ข้าจะละทิ้งสิ่งนั้น และสิ่งที่เป็นภาคีนั้น

7- พวกเจ้าอย่าทำบ้านพวกเจ้าให้เป็นสุสาน และอย่าเอาสุสานของฉันเป็นเทศกาลชุมนุม และพวกเจ้าจงเศาะละวาต (ขอพรอันประเสริฐ) แก่ฉัน แท้จริง การเศาะละวาตของพวกเจ้าจะถึงไปยังฉัน ในทุกที่ที่พวกเจ้าอยู่

8- อัลลอฮ์จะทรงให้เขาได้เข้าสวรรค์ไม่ว่าเขาจะมีความดีกี่มากน้อยก็ตาม

9- ผู้ใดที่ได้พบกับอัลลอฮ์ โดยที่เขาไม่ยึดสิ่งใดเป็นภาคีต่อพระองค์ เขาจะได้เข้าสวรรค์ และผู้ใดที่ได้พบกับอัลลอฮ์ โดยที่เขาตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์ เขาจะตกนรก

10- ผู้ใดที่ประกันตนว่าจะรักษาลิ้นและอวัยวะเพศของตนจากการละเมิดได้ ฉันจะรับประกันสวรรค์ให้แก่เขาเอง

11- การรำลึกถึงอัลลอฮ์ที่ดีที่สุด คือ "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์" (ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่เที่ยงแท้นอกจากอัลลอฮ์) และการขอพรที่ดีที่สุด คือ "อัลหัมดุลิลลาฮ์" (การสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮ์)

12- สวรรค์อยู่ใกล้กับคนหนึ่งในหมู่พวกเจ้านั้นยิ่งกว่าสายเชือกรองเท้าของเขา และนรกก็อยู่ในสถานะเดียวกัน

13- การละหมาดห้าเวลา และระหว่างวันศุกร์หนึ่งไปยังอีกวันศุกร์หนึ่ง และระหว่างเราะมะฎอนหนึ่งไปยังอีกเราะมะฎอนหนึ่ง จะลบล้างความผิดในช่วงระยะเวลาระหว่างนั้น หากว่าเขาออกห่างจากการทำบาปใหญ่

14- “ไม่ว่าจะมีสิ่งใดประสบกับมุสลิมจากความเหนื่อยล้า ความเจ็บปวด ความกังวล ความโศกเศร้า ภัยอันตราย และความทุกข์ยาก แม้กระทั่งหนามที่ตำเขา นอกจากอัลลอฮ์จะทรงลบล้างบาปของเขาด้วยเหตุผลนั้น”

15- นรกถูกห้อมล้อมด้วยอารมณ์ใฝ่ต่ำ และสวรรค์ถูกห้อมล้อมด้วยสิ่งที่อารมณ์ไม่ชอบ

16- หน้าที่ของมุสลิมที่พึงมีต่อมุสลิมด้วยกันนั้น 5 ประการ คือ การตอบรับสลาม การเยี่ยมเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย การส่งศพไปยังหลุมฝังศพ การตอบรับคำเชิญ และการกล่าวดุอาอ์ให้แก่ผู้จาม

17- อัลลอฮ์ทรงเมตตาแก่ผู้ที่ใจกว้างเมื่อเขาได้ขาย เมื่อเขาได้ซื้อ และเมื่อเขาได้ถูกทวงถามในสิทธิ์

18- ชายคนหนึ่งได้ให้ผู้อื่นกู้หนี้ยืมสิน แล้วกล่าวกับคนของเขาว่า หากมีคนที่ลำบากมา ก็จงยกโทษให้พวกเขาไป หวังว่าอัลลอฮ์จะทรงยกโทษพวกเรา

19- “เมื่อมุสลิมสองคนต่อสู้กันเองด้วยดาบของทั้งสอง ดังนั้นทั้งผู้ที่ฆ่าและผู้ที่ถูกฆ่าจะถูกลงโทษในนรก

20- แท้จริงสิ่งที่อนุมัติ (หะลาล) นั้นชัดเจนและสิ่งที่ต้องห้าม

21- แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงมองที่รูปร่างหน้าตาหรือความมั่งคั่งของพวกเจ้า แต่พระองค์จะทรงมองที่จิตใจและการกระทำของพวกเจ้า

22- แท้จริง ผลตอบแทนของการกระทำทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับเจตนาต่างๆ และสำหรับทุกคนนั้นจะได้รับในสิ่งที่เขาได้ตั้งเจตนาไว้

23- อย่าโกรธ

24- “หากพวกเจ้ามอบหมายต่ออัลลอฮ์อย่างแท้จริง แน่นอน พระองค์จะทรงประทานปัจจัยยังชีพให้พวกเจ้า เหมือนที่พระองค์ทรงประทานให้กับนก โดยที่มันบินออกไปในตอนเช้าในสภาพที่ท้องว่างและกลับมาในตอนเย็นในสภาพที่ท้องอิ่ม”

25- เมื่อบ่าวคนหนึ่งได้ทำบาปอย่างหนึ่ง แล้วเขากล่าวว่า โอ้อัลลอฮ์ ขอพระองค์โปรดอภัยโทษต่อความผิดของฉันด้วยเถิด

26- “แท้จริงบรรดาผู้ที่เที่ยงธรรม ณ ที่อัลลอฮ์นั้น พวกเขาจะอยู่บนมิมบัรที่ทำจากรัศมี ซึ่งจะอยู่ทางพระหัตถ์ด้านขวาของพระองค์ ผู้ทรงสูงส่ง และพระหัตถ์ทั้งสองของพระองค์ทรงมีความดีงาม

27- “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่า การนินทาคืออะไร?” พวกเขา (บรรดาเศาะฮาบะฮ์) กล่าวว่า “อัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์รู้ดีที่สุด” ท่านกล่าวว่า “คือ การที่เจ้ากล่าวถึงพี่น้องของเจ้าในสิ่งที่เขาไม่ชอบ

28- “แท้จริงมีคนจำนวนมากที่ใช้ทรัพย์สมบัติของอัลลอฮ์ในทางที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นสำหรับพวกเขาคือไฟนรกในวันกิยามะฮ์”

29- จงห่างไกลจากการสงสัย เพราะแท้จริงแล้ว การสงสัยเป็นคำพูดที่โกหกที่สุด

30- ทุก ๆ ความดีคือการเศาะดะเกาะฮ์ (การบริจาคทาน)

31- “เจ้าอย่าได้ด้อยค่าความดีใดๆ แม้ว่าเจ้าจะพบปะกับพี่น้องของเจ้าด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มก็ตาม”

32- “ผู้ที่แข็งแกร่งไม่ใช่ด้วยการล้มผู้อื่น แต่ผู้ที่แข็แกร่งที่แท้จริงคือผู้ที่ควบคุมตัวเองได้ในยามโกรธ”

33- ผู้ใดที่ชี้แนะสู่ความดี ดังนั้น เขาก็จะได้รับผลบุญเช่นเดียวกับผู้กระทำความดีนั้นด้วย

34- “พวกเจ้าอย่าได้ด่าทอคนที่เสียชีวิตไปแล้ว เพราะพวกเขาได้ไปถึงสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้แล้ว

35- ไม่อนุมัติให้ชายคนหนึ่งตัดสัมพันธ์กับพี่น้องของเขาเกินสามคืน โดยที่ทั้งสองนั้นเจอกัน แล้วต่างคนต่างหนีหน้ากัน และผู้ที่ประเสริฐกว่าในสองคนนั้นคือผู้ที่เริ่มให้สลามก่อน

36- ผู้ที่ตัดสัมพันธ์กับเครือญาติเขาจะไม่ได้เข้าสวรรค์

37- ผู้ที่ทำการนินทาเขาจะไม่ได้เข้าสวนสวรรค์

38- “ผู้ใดที่อยากให้ปัจจัยยังชีพของเขาเพิ่มพูนและอายุขัยของเขายืนยาว ดังนั้น เขาจงรักษาสายสัมพันธ์ทางเครือญาติไว้”

39- “บ่าวคนหนึ่งจะอยู่ใกล้ชิดกับพระผู้อภิบาลของเขามากที่สุด คือขณะที่เขาสุญุด ดังนั้นจงขอดุอาอ์ให้มากเถิด”

40- ผู้ใดที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันอาคิเราะฮ์ เขาก็จงพูดแต่ในสิ่งที่ดีหรือไม่ก็นิ่งเงียบเสีย

41- “ผู้ใดไม่ปรานีต่อผู้อื่น อัลลอฮ์ อัซซะวะญัล ก็จะไม่ทรงปรานีต่อเขาด้วย”

42- “แท้จริงบุคคลที่อัลลอฮ์ทรงกริ้วที่สุดคือ ผู้ที่ชอบโต้เถียงกันอย่างรุนแรง”

43- “ถ้อยคำอันเป็นที่รักยิ่งสำหรับอัลลอฮ์มีสี่ถ้อยคำ คือ ซุบหานัลลอฮ์ (มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮ์) วัลหัมดุลิลลาฮ์ (การสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮ์) วะลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ (ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์แต่เพียงพระองค์เดียว) วัลลอฮุอักบัร (อัลลอฮ์ทรงยิ่งใหญ่ที่สุด) ซึ่งจะไม่มีปัญหาใด ๆ ที่เจ้าจะเริ่มกล่าวถ้อยคำใดก่อน”

44- ผู้ที่จะได้เข้าสวรรค์ส่วนมาก คือ ผู้ที่ยำเกรงต่ออัลลอฮฺและมีกิริยามารยาทที่ดีงาม

45- ความละอายนั้นเป็นสวนหนึ่งของการศรัทธา

46- แท้จริงการดุอาอฺ (วิงวอนขอ) นั้นคือการอิบาดะฮฺ (เคารพภักดี)

47- สองคำที่เป็นที่รักยิ่งต่อผู้ทรงเมตตา เบาต่อลิ้น แต่หนักบนตาชั่ง คือ ซุบหานัลลอฮิวะบิหัมดิฮฺ ซุบหานัลลอฮุลอะษีม (มหาบริสุทธิ์แด่อัลลอฮฺและด้วยการสรรเสริญต่อพระองค์ มหาบริสุทธิ์แด่อัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่)

48- ไม่มีสิ่งใดที่จะมีเกียรติยิ่ง ณ อัลลอฮฺ มากไปกว่าการขอดุอาอฺ

49- ผู้ใดที่ปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีของพี่น้องของเขาจากการนินทาลับหลัง อัลลอฮฺจะทรงปกป้องใบหน้าของเขาจากไฟนรกในวันกิยามะฮฺ

50- ผู้ใดที่กล่าว: "ซุบฮานัลลอฮิวะบิฮัมดิ" (มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮฺ และด้วยการสรรเสริญแด่พระองค์) ในหนึ่งวันเป็นจำนวนหนึ่งร้อยครั้ง ความผิดต่างๆ ของเขาจะถูกทำให้ร่วงหล่นลงไปแม้มันจะมากมายเช่นฟองน้ำในทะเลก็ตาม

51- ผู้ใดที่กล่าว: "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ วะหฺดะฮูลาชะรีกะละฮฺ ลัฮุลมุลกฺ วะละฮุลฮัมดฺ วะฮุวะอะลา ดุลลิชัยอินเกาะดีร" (ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียว โดยปราศจากการตั้งภาคีใดๆ พร้อมพระองค์ การปกครองดูแลเป็นของพระองค์ และมวลการสรรเสริญก็เป็นของพระองค์ และพระองค์ทรงปรีชาสามารถเหนือทุกๆ สิ่ง) จำนวนสิบครั้ง เขาจะได้รับผลบุญประหนึ่งไถ่ทาสสี่คนจากลูกหลานของนบีอิสมาอีล

52- ใครที่อัลลอฮฺประสงค์ความดีงามแก่เขา พระองค์จะทรงให้เขาเข้าใจศาสนา

53- แท้จริงอัลลอฮนั้นทรงรักบ่าวที่มีความยำเกรงเกรงกลัวด้วยความร่ำรวยของตนเอง โดยมิให้ผู้อื่นรู้

54- ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จะไม่ส่งคืน (ปฏิเสธ) น้ำหอม

55- บรรดาผู้ศรัทธาที่มีความศรัทธาที่สมบูรณ์ยิ่งคือ บุคคลที่มีคุณลักษณะนิสัยที่ดีที่สุดในหมู่พวกเขา และผู้ที่ดีที่สุดในหมู่พวกเจ้าคือ ผู้ที่มีนิสัยที่ดีที่สุดในหมู่พวกเจ้าต่อภรรยาของพวกเขา

56- แท้จริงความอ่อนโยนนุ่มนวลนั้นไม่มีอยู่ในสิ่งใด เว้นแต่จะทำให้สิ่งนั้นงดงามขึ้น และจะไม่ถูกดึงออกจากสิ่งใด เว้นแต่จะทำให้สิ่งนั้นมีตำหนิ

57- แท้จริงอัลลอฮฺนั้นย่อมพึงพอใจในตัวบ่าวด้วยการที่เขากินอาหารคำหนึ่งแล้วกล่าวขอบคุณต่อพระองค์ หรือดื่มน้ำอึกหนึ่งแล้วกล่าวขอบคุณต่อพระองค์ในสิ่งนั้น

58- แท้จริงผู้ศรัทธาที่มีคุณลักษณะนิสัยที่ดีนั้นย่อมบรรลุถึงระดับขั้นของผู้ที่ถือศิลอดและผู้ที่ลุกขึ้นทำอิบาดะฮในยามค่ำคืนอย่างแน่นอน

59- แท้จริง ผู้ที่ดีที่สุดในหมู่สูเจ้า คือ ผู้ที่มีมารยาทที่ดีที่สุด

60- แท้จริงอัลลอฮฺจะประวิงเวลาให้กับผู้ที่อธรรม แล้วเมื่อพระองค์จัดการกับเขา พระองค์จะไม่ให้เขาเล็ดลอดไปได้

61- ฉันไม่ได้ทิ้งภัยใดหลังจากฉัน(เสียชีวิตไปแล้ว) ที่เป็นอันตรายต่อผู้ชายมากไปกว่าผู้หญิง

62- จงทำให้ง่ายดาย และอย่าสร้างความลำบาก จงแจ้งข่าวดีและอย่าทำให้ผู้คนหนีห่าง

63- ผู้ใดแวะพัก ณ ที่พักแห่งหนึ่ง จงกล่าวว่า: อะอูซุ บิกะลิมาติลลาฮิตตามมาติ มิน ชัรริ มา เคาะลัก (ความว่า: ฉันขอความคุ้มครองด้วยพจนารถอันสมบูรณ์ของอัลลอฮฺ ให้พ้นจากความเลวร้ายของทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทรงสร้างไว้) จะไม่มีสิ่งใดทำร้ายเขากระทั่งเขาได้จากที่นั่นไป

64- คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านยังไม่มีศรัทธาที่สมบูรณ์ จนกว่า ฉันจะเป็นที่รักยิ่งสำหรับเขา มากกว่าลูกของเขา บิดาของเขา และมากกว่ามนุษย์ทั้งหมด

65- การที่ฉันกล่าวคำว่า สุบหานัลลอฮฺ (มหาบริสุทธิ์แด่อัลลอฮฺ) อัลหัมดุลิลลาฮฺ (มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ) ลาอิลาฮฺ อิลลัลลอฮฺ (ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรเคารพนอกจากอัลลอฮฺ) อัลลอฮุอักบัรฺ (อัลลอฮฺผู้ทรงเกรียงไกร)

66- ผู้ใดอ่านสองอายะฮฺสุดท้ายของซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺในยามค่ำ ก็เป็นที่เพียงพอแก่เขาแล้ว

67- ผู้ใดอ่านหนึ่งอักษรจากคัมภีร์ของอัลลอฮฺ (อัลกุรอ่าน) เขาจะได้รับหนึ่งความดี และหนึ่งความดีจะ (ถูกทวีคูณ) เป็น 10 เท่าของมัน

68- ผู้ใดที่แขวนสิ่งๆหนึ่ง (โดยหวังว่าสิ่งนั้นจะเป็นประโยชน์หรือสามารถป้องกันตัวเองได้) ดังนั้นอัลลอฮฺจะทำให้คนๆ นั้นต้องพึ่งพาสิ่งนั้นตลอด

69- บรรดาผู้มีความเมตตานั้น พระเจ้าผู้ทรงเมตตาจะทรงให้ความเมตตาแก่พวกเขา ดังนั้นพวกเจ้าจงเมตตาต่อผู้ที่อยู่บนผืนแผ่นดิน แล้วผู้ที่อยู่บนฟากฟ้า ก็จะเมตตาพวกเจ้า

70- ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ห้ามจากการตัดผมบางส่วนและให้เหลือไว้บางส่วน

71- พวกเราถูกห้ามจากการเสแสร้ง

72- ไม่มีบ่าวคนใดที่เขากล่าวปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺด้วยความสัจจริงจากใจของเขา เว้นแต่อัลลอฮฺจะทำให้เขาเป็นที่ต้องห้ามสำหรับนรก

73- โอ้เด็กน้อยเอ๋ย เจ้าจงกล่าว “บิสมิ้ลลาฮฺ” และจงทานอาหารด้วยมือขวาของเจ้าและจงเริ่มทานจากอาหารที่อยู่ตรงหน้าเจ้า

74- เมื่อคนหนึ่งคนใดจากพวกท่าน จะรับประทาน จงรับประทานด้วยมือขวาของเขาเถิด และเมื่อเขาจะดื่ม ก็จงดื่มด้วยมือขวาของเขาเถิด แท้จริงเหล่ามารร้าย (ชัยฏอน) นั้น จะกินด้วยมือซ้าย และดื่มด้วยมือซ้าย

75- ความสะอาดเป็นครึ่งหนึ่งของการศรัทธา

76- แท้จริงสิทธิที่อัลลอฮ์ต้องได้รับจากบ่าว คือการเคารพสักการะต่อพระองค์เพียงผู้เดียว และไม่นำสิ่งใดมาเป็นภาคีกับพระองค์ และสิทธิที่บ่าวจะได้รับจากอัลลอฮ์ก็คือการที่พระองค์ไม่ลงโทษผู้ที่ไม่ตั้งภาคีต่อพระองค์ด้วยสิ่งใดๆ

77- ผู้ใดเสียชีวิตโดยที่เขาไม่ได้ตั้งภาคีใดๆ ต่ออัลลอฮ์ เขาจะได้เข้าสวรรค์อย่างแน่นอน และผู้ใดเสียชีวิตโดยที่เขาได้ตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์ เขาจะได้เข้านรกอย่างแน่นอน

78- ได้โปรดบอกถ้อยคำหนึ่งให้แก่ฉันที่เกี่ยวกับอิสลามที่เป็นถ้อยคำที่ฉันไม่ต้องถามผู้อื่นนอกจากท่านด้วยเถิด” ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงกล่าวว่า: “ท่านจงกล่าวเถิดว่า ฉันได้ศรัทธาต่ออัลลอฮ์แล้ว หลังจากนั้นก็จงยืนหยัดอยู่บนความถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ

79- “แท้จริง อัลลอฮ์จะทรงเรียกชายคนหนึ่งจากประชาชาติของฉันออกมาต่อหน้าผู้คนมากมายในวันกิยามะฮ์

80- หลังจากอัลลอฮ์สร้างสวรรค์และนรก พระองค์ได้ส่งมลาอิกะฮ์ญิบรีล อะลัยฮิสสลาม

81- พวกเจ้าจงยำเกรงต่ออัลลอฮ์ จงฟังและปฏิบัติตาม แม้ทาสจากชาวเอธิโอเปียเป็นผู้นำพวกเจ้าก็ตาม และหลังจากฉัน พวกเจ้าจะได้เห็นความขัดแย้งอย่างรุนแรง ดังนั้นพวกเจ้าจงปฏิบัติตามซุนนะฮ์ของฉันและซุนนะฮ์ของบรรดาคอลีฟะฮ์ผู้ทรงธรรม

82- “เมื่อมุอัซซิน (ผู้ประกาศเมื่อถึงเวลาละหมาด) กล่าวว่า "อัลลอฮุอักบัร อัลลอฮุอักบัร"(อัลลอฮ์ผู้ยิ่งใหญ่) ดังนั้นคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้าก็กล่าวตามว่า "อัลลอฮุอักบัร อัลลอฮุอักบัร

83- “อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงตรัสว่า: ฉันได้แบ่งการละหมาดระหว่างฉันและบ่าวของฉันออกเป็นสองส่วน และบ่าวของฉันจะได้รับตามที่เขาขอ

84- “พวกเจ้าอย่าสวมผ้าไหมและผ้ายก (เสื้อผ้าที่มาจากผ้าไหมที่ดีที่สุด) อย่าดื่มจากภาชนะที่เป็นทองและเงิน อย่ากินอาหารจากภาชนะที่เป็นทองและเงิน แท้จริงสิ่งเหล่านี้มีไว้สำหรับพวกเขา(ผู้ปฏิเสธศรัทธา)ในโลกนี้และสำหรับพวกเราในโลกหน้า”

85- แท้จริงฉันไม่ต้องการขอคำสาบานจากพวกท่าน เพราะคิดไม่ดีต่อพวกท่านหรอก แต่มลาอิกะฮ์ญิบรออีลได้มาหาฉันและบอกฉันว่า แท้จริงอัลลอฮ์ทรงอวดพวกท่านต่อหน้าเหล่าบรรดามลาอิกะฮ์

86- แท้จริง ทั้งสองคนที่อยู่ในหลุมสองหลุมนี้กำลังถูกทรมาน และทั้งสองคนไม่ได้ถูกทรมานเพราะสิ่งใหญ่โตอะไร" หนึ่งในสองคนนี้มักจะไม่ระวังตัวเองจากการปัสสาวะ ส่วนอีกคนมักเดินใส่ร้ายผู้อื่น

87- ปล่อยมันไว้(ไม่ต้องถอด) เพราะฉันได้ใส่มันทั้งสองในสภาพที่ทั้งสองนั้นสะอาด

88- “เมื่อคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้าอาบน้ำละหมาด ก็จงให้เขาสูดน้ำเข้าจมูกแล้วสั่งออกมา และผู้ใดทำความสะอาดด้วยหิน ก็ให้เขาใช้หินเป็นจำนวนคี่

89- “หากคน ๆ หนึ่งต้องการเข้าบ้านของเขา แล้วได้กล่าวพระนามของอัลลอฮ์ขณะที่เขาจะเข้าไปและกล่าวเมื่อต้องการจะกินอาหาร ชัยฏอนจะกล่าวว่า “ไม่มีที่นอนและไม่มีอาหารค่ำสำหรับพวกเจ้าแล้ว

90- “แท้จริง โลกนี้ช่างหอมหวานและเขียวขจี และแท้จริงอัลลอฮ์ได้ทรงแต่งตั้งพวกเจ้าให้เป็นคอลีฟะฮ์เพื่อจัดการสิ่งที่อยู่ในนั้น แล้วพระองค์จะทรงดูว่าพวกเจ้ากระทำเช่นไร ดังนั้น จงระวังโลกนี้และระวังผู้หญิง

91- คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านจงอย่าสัมผัสอวัยวะเพศของตัวเองด้วยมือขวาขณะปัสสาวะ และอย่าทำความสะอาดอุจจาระด้วยมือขวา และอย่าหายใจเข้าไปในภาชนะ

92- อุปมาเพื่อนที่ดีกับเพื่อนที่ไม่ดีนั้น อุปมัยดังคนที่มีน้ำหอม กับช่างตีเหล็ก

93- “เงินทองที่ดีที่สุดที่คนๆ หนึ่งจะใช้จ่ายมัน คือ เงินทองที่เขาใช้จ่ายมันให้กับครอบครัวของเขา และเงินทองที่เขาจ่ายมันไปให้กับพาหนะของเขาในหนทางของอัลลอฮ์ และเงินทองที่เขาจ่ายมันแก่พวกพ้องของเขาเพื่ออัลลอฮ์”

94- “ช่างเป็นสิ่งที่แปลกยิ่งสำหรับสถานการณ์ของผู้ศรัทธา ทุกสถานการณ์ของเขาล้วนเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขา และสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับใครนอกจากกับผู้ศรัทธาเท่านั้น

95- เมื่อใดก็ตามที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จาม ท่านจะวางมือหรือเสื้อผ้าของท่านวางปิดปากไว้ และท่านก็จะลดเสียงของท่านลง

96- ?พวกท่านจะไม่ได้เข้าสวนสวรรค์จนกว่าพวกท่านจะศรัทธา และพวกท่านยังไม่มีศรัทธา (ที่แท้จริง) จนกว่าพวกท่านจะรักใคร่ปรองดองกัน พวกท่านต้องการไหม ถ้าฉันจะชี้แนะพวกท่านถึงบางสิ่งเมื่อพวกท่านปฏิบัติมันแล้วจะทำให้พวกท่านเกิดความรักใคร่ต่อกัน?(นั่นคือ) พวกท่านจงเผยแผ่สลามให้แก่กันในหมู่พวกท่าน

97- งานใดที่อัลลอฮ์รักมากที่สุด? ท่านตอบว่า “การละหมาดตามเวลาของมันที่กำหนดไว้” เขากล่าวว่า แล้วอะไรอีก? ท่านตอบว่า: “จากนั้นคือการทำความดีต่อพ่อแม่” เขากล่าวว่า: แล้วอะไรอีก? ท่านตอบว่า “การญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์”

98- มีชายคนหนึ่งร่วมรับประทานอาหารกับท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ด้วยมือซ้าย ดังนั้นท่านจึงกล่าวว่า "จงกินด้วยมือขวาของท่าน" เขากล่าวว่า "ฉันทำไม่ได้" ท่านกล่าวว่า "ท่านทำไม่ได้อย่างนั้นหรือ"

99- “เรื่องลางร้ายเป็นการตั้งภาคี เรื่องลางร้ายเป็นการตั้งภาคี เรื่องลางร้ายเป็นการตั้งภาคี (สามครั้ง) และไม่มีใครในหมู่พวกเราที่ไม่คิดขึ้นในใจเกี่ยวกับเรื่องลางร้าย แต่ว่าอัลลอฮ์ทรงทำให้มันหายไปด้วยกับการมอบหมาย”

100- ไม่มีโรคระบาด ไม่มีเรื่องลางดีลางร้าย ไม่มีเรื่องลางเกี่ยวกับนกฮูกและเดือนซอฟัร และจงหนีจากคนที่เป็นโรคเรื้อนเหมือนหนีจากสิงโต

101- ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ หากอัลลอฮ์ทรงประทานทางสว่างแก่คนใด เนื่องจากการเชิญชวนของเจ้า มันจะดีสำหรับเจ้ายิ่งกว่าการที่เจ้าได้ครอบครองอูฐสีแดง”

102- “พวกเจ้าต้องการให้ฉันแนะนำให้พวกเจ้ารู้ถึงการกระทำที่สามารถลบล้างบาปและยกระดับสถานะของพวกเจ้าหรือไม่?

103- “เอาไหม? ฉันจะแจ้งแก่พวกท่านถึงอะมัล(การงาน)ที่ดีที่สุดของพวกท่าน เป็นอะมัล(การงาน)ที่บริสุทธิ์ที่สุด ณ พระผู้อภิบาลของพวกท่าน เป็นอะมัลที่สูงส่งยิ่งสำหรับการยกระดับขั้นของพวกท่าน

104- โอ้ ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ฉันไม่ทิ้งเลย แม้จะเป็นบาปเล็กหรือบาปใหญ่ นอกจากว่า ฉันจะทำมัน ท่านกล่าวว่า "เจ้าไม่ได้กล่าว คำปฏิญาณ "لا إله إلا الله محمد رسول الله " ดอกหรือ?

105- ชัยฏอนจะมาหาคนใดคนหนึ่งในหมู่พวกเจ้า แล้วมันกล่าวว่า “ใครสร้างสิ่งนั้น? ใครสร้างสิ่งนี้?” สุดท้ายมันก็ถามว่า “ใครสร้างอัลลอฮ์” ดังนั้น เมื่อคนใดคนหนึ่งในหมู่พวกเจ้าได้พบกับเรื่องเช่นนี้ ก็จงขอความคุ้มครองจากอัลลอฮ์ และให้จบแค่นั้น”

106- การงานมี 6 ประเภท และมนุษย์นั้นมี 4 ประเภท และ 2 สิ่งที่จำเป็น ผลการตอบแทนที่เท่ากับการกระทำ และ 1 ความดีเท่ากับ 10 เท่าของมัน และ 1 ความดีเท่ากับ 700 เท่าของมัน

107- แท้จริงส่วนหนึ่งของสัญญาณแห่งกาลอวสานนั้นคือ ความรู้จะถูกนำกลับไป และความโง่เขลาจะมาแทนที่ การละเมิดทางเพศจะแพร่ระบาด น้ำเมาจะถูกดื่มอย่างแพร่หลาย จำนวนผู้ชายจะลดน้อยลง จำนวนผู้หญิงจะเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งจำนวนผู้หญิงมีมากถึงห้าสิบคนที่มีผู้ดูแลหนึ่งคน

108- วันสิ้นโลกจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าชายคนหนึ่งจะเดินผ่านหลุมฝังศพของชายอีกคนหนึ่งแล้วพูดว่า: "ฉันหวังว่าฉันจะอยู่ในที่ของเขา

109- “ความตายจะถูกนำมาโดยถูกจำแลงเป็นแกะอ้วนตัวหนึ่ง

110- “ไฟที่พวกเจ้าใช้กันอยู่นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากเจ็ดสิบส่วนของความร้อนจากไฟนรกญะฮันนัม

111- ใครก็ตามที่พูดเท็จเกี่ยวกับฉันโดยเจตนา ดังนั้นเขาจงเตรียมที่นั่งของเขาในนรก

112- ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวถึงบางสิ่ง และกล่าวว่า: "นั่นคือเวลาที่ความรู้จะหายไป

113- อย่าแสวงหาความรู้เพื่อโอ้อวดต่อหน้าบรรดาผู้รู้ หรือโต้เถียงกับคนโง่เขลา

114- อัลลอฮ์ได้เปรียบเทียบเส้นทางของพระองค์ที่เที่ยงตรง

115- มีคนใดในหมู่พวกท่านต้องการอูฐตัวเมียตั้งท้องตัวใหญ่อ้วนสามตัวเมื่อเขากลับไปหาครอบครัวของเขาบ้าง

116- จะมีการกล่าวแก่ผู้ที่อุทิศตนเพื่ออัลกุรอาน ว่า: จงอ่าน จงเลื่อนขึ้น และจงอ่านด้วยความใคร่ครวญอย่างที่เจ้าเคยอ่านในโลกนี้ เพราะแท้จริงสถานะของเจ้าขึ้นอยู่กับโองการสุดท้ายที่เจ้าอ่าน

117- ผู้ที่อ่านอัลกุรอานอย่างเปิดเผยก็เหมือนกับผู้ที่บริจาคอย่างเปิดเผยและผู้ที่อ่านอัลกุรอานอย่างลับ ๆ ก็เหมือนกับผู้ที่บริจาคทานอย่างลับ ๆ

118- พวกเขาจะรับฟังสิบโองการจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และจะยังไม่เลื่อนไปยังสิบโองการถัดไป จนกว่าพวกเขาจะเรียนรู้ ความรู้และการประยุกต์ใช้จากมัน

119- โอ้ อบุลมุนซิร ท่านรู้หรือไม่ว่าโองการใดในคัมภีร์ของอัลลอฮ์ที่ท่านมีนั้นยิ่งใหญ่ที่สุด” ฉันกล่าวว่า: {اللهُ لا إِلَهَ إِلا هُوَ الْحَيُّ الْقَيُّومُ} [ซูเราะฮ์ อัลบะเกาะเราะฮ์ : 255] จากนั้น ท่านก็ตบที่หน้าอกของฉันและกล่าวว่า: "ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ ขอให้ความรู้เป็นที่พอใจสำหรับท่าน โอ้ อบุลมุนซิร

120- เมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เข้านอนทุกคืน ท่านจะประสานมือเข้าด้วยกันและเป่าเข้าไปแล้วอ่านซูเราะฮ์อัลอิคลาศ อัลฟะลัก และอันนาส

121- หากพวกเจ้าเห็นบรรดาผู้ปฏิบัติตามโองการต่างๆ ที่คลุมเครือ ดังนั้นพวกเขาคือผู้ที่อัลลอฮ์ทรงตั้งชื่อให้ ดังนั้นจงระวังพวกเขาให้ดี

122- “ไม่มีใครที่ทำบาป จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นอาบน้ำละหมาด แล้วทำการละหมาด จากนั้นก็ขอการอภัยโทษจากอัลลอฮ์ นอกจากอัลลอฮ์จะทรงอภัยโทษให้แก่เขา

123- ขอบเขตที่พวกเขาทรยศต่อเจ้า ไม่เชื่อฟังเจ้า และโกหกเจ้านั้นวัดกันที่ว่าเจ้าลงโทษพวกเขามากเพียงใด

124- จงกล่าวว่า(لَا إِلَهَ إِلَّا اللهُ) "ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์" และฉันจะเป็นพยานให้ท่านด้วยสิ่งนี้ในวันกิยามะฮ์

125- (แล้วในวันนั้นพวกเจ้าจะถูกสอบถามเกี่ยวกับความโปรดปรานที่ได้รับ ในโลกดุนยา)

126- “เมื่อพวกเจ้าได้ยินผู้ที่ประกาศเรียกสู่การละหมาด ก็จงกล่าวตามอย่างที่เขากล่าว แล้วจงทำการเศาะละวาตต่อฉัน

127- หากคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านต้องการเข้ามัสยิด ก็จงกล่าว"อัลลอฮุม มัฟตะห์ลี อับวาบะเราะห์มะติกะ" และหากต้องการออก ก็จงกล่าวว่า"อัลลอฮุมมะ อินนี อัสอะลุกะ มิน ฟัฎลิกะ

128- นั่นคือชัยฏอนที่มีชื่อเรียกว่า คินซับ/คินซิบ หากท่านรู้สึกอย่างนั้น จงขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์ให้พ้นจากมัน และถ่มน้ำลายไปทางซ้ายของเจ้า 3 ครั้ง